ธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) เปิดเผยในวันนี้ว่า เยอรมนีมีตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย. แตะระดับ 2.62 หมื่นล้านยูโร จากระดับ 1.29 หมื่นล้านยูโรในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งเป็นการวัดดุลการค้าของประเทศ รวมทั้งรายได้สุทธิจากการลงทุนระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้วิพากษ์วิจารณ์เยอรมนีซึ่งมีตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะไร้สมดุลในระดับโลก เนื่องจากเป็นการบ่งชี้ถึงภาวะขาดดุลและหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของประเทศคู่ค้า
IMF เรียกร้องให้เยอรมนีควบคุมตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยข้อมูลของ IMF ระบุว่า เยอรมนีมีตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงกว่าระดับ 8% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขเกินดุลที่สูงกว่า 6% อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
IMF ระบุว่า ตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงไม่จำเป็นต้องแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเสมอไป แต่เป็นการบ่งชี้ถึงการลงทุนภายในประเทศที่อ่อนแอ และการออมในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่สูงเกินความจำเป็น ดังนั้น รัฐบาลเยอรมนีจึงควรเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ ในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อกระตุ้นภาคเอกชนให้เพิ่มการลงทุนในประเทศ