รัฐมนตรีคลังเยอรมนีกล่าวว่า วิกฤตค่าเงินตุรกีได้เพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจเยอรมนี นอกเหนือไปจากความขัดแย้งด้านการค้ากับสหรัฐและความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงกับสหภาพยุโรป
ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ค่าเงินลีราของตุรกีทรุดตัวลงไปแล้วถึง 39% เทียบดอลลาร์ อันเนื่องมาจากข้อพิพาททางการทูตกับสหรัฐ และการที่ประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้เข้าแทรกแซงนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
ทั้งนี้ เยอรมนีเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในตุรกี ซึ่งเป็นคู้ค่ารายใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังเยอรมนียังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเยอรมนีต้องพบกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการที่อังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป และนโยบายการค้าของสหรัฐ อีกทั้งเศรษฐกิจตุรกีก็นำมาซึ่งความเสี่ยงทางเศรษฐกิจใหม่จากภายนอก
อย่างไรก็ตาม รายงานของกระทรวงการคลังเยอรมนีระบุว่า แม้เยอรมนีเผชิญกับความเสี่ยงดังกล่าว แต่เศรษฐกิจเยอรมนียังคงสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ การบริโภคของภาคเอกชน อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และการขึ้นค่าจ้างที่แท้จริง รวมถึงมีการคาดการณ์ว่าบริษัทต่างๆ จะเพิ่มการลงทุนเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะที่ดีแม้ว่าจะเผชิญสงครามการค้า