นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้วิพากษ์วิจารณ์จีนและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ว่ามีพฤติกรรมจงใจปั่นค่าเงินเพื่อหวังผลด้านการแข่งขันทางการค้า
ถ้อยแถลงดังกล่าวไม่ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์เคยกล่าวโจมตีจีนและยุโรปว่าทำการปั่นค่าเงินมาแล้ว และตำหนิว่าการที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นนั้น ทำให้สหรัฐสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก แม้รายงานจากกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ไม่มีประเทศใดที่มีพฤติกรรมจัดอยู่ในกลุ่มที่จงใจปั่นค่าเงิน โดยจีนยังคงถูกขึ้นบัญชีในฐานะประเทศที่ "ถูกจับตามอง" พฤติกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับค่าเงิน และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ ยังได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเขามองว่า เฟดควรเข้ามาช่วยเหลือตนในเรื่องข้อพิพาททางการค้ากับจีน สหภาพยุโรป และชาติอื่นๆ เหมือนกับที่ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆให้ความช่วยเหลือประเทศของตน
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กรณีที่เฟดมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาคิดว่านายพาวเวลจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และจะไม่ดำเนินการอย่างเข้มงวดจนเกินไป ขณะที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย