กลุ่มค่ายยานยนต์ต่างชาติที่มีโรงงานผลิตในสหรัฐ ได้ออกมาคัดค้านแผนการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ในการปรับขึ้นอัตราการใช้ชิ้นส่วนและแรงงานในประเทศสำหรับการผลิตรถยนต์ในประเทศสมาชิกข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก
ถ้อยแถลงดังกล่าวมาจากหนังสือที่ทางกลุ่มได้ยื่นต่อสภาคองเกรส โดยมีเนื้อหาแสดงความกังวลว่า ค่ายยานยนต์ต่างชาติบางรายในสหรัฐที่มีฐานการผลิตค่อนข้างเล็ก และมีบุคลากรฝ่ายวิจัยและพัฒนาไม่มาก อาจเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ หากสหรัฐปรับขึ้นอัตราการใช้ชิ้นส่วนและแรงงานภายในประเทศ ซึ่งหมายความว่า ค่ายยานยนต์ต่างชาติในสหรัฐจะต้องใช้ทรัพยากรของสหรัฐในอัตราร้อยละที่กำหนด
เนื้อความในหนังสือระบุว่า หากรัฐบาลไม่มีการชี้แจง รับรองความเชื่อมั่น หรือแก้ไขกฎเหล่านี้แล้ว กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ต่างชาติหลายๆรายที่มีการผลิตในสหรัฐ จะไม่สนับสนุนข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่
ทั้งนี้ นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก โดยนายอิลเดฟอนโซ กูจาร์โด รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเม็กซิโก จะพบปะหารือกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อได้ข้อตกลงแล้วก็จะเปิดทางให้ฝั่งแคนาดาร่วมโต๊ะเจรจาต่อไป
การเจรจา NAFTA ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลง NAFTA ซึ่งจัดทำขึ้นในปี 2537 ว่า ข้อตกลงดังกล่าวทำให้เม็กซิโกมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าภาคอุตสาหกรรมสหรัฐอย่างไม่ยุติธรรม และขู่ว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลง NAFTA จนกว่าทุกฝ่ายจะยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ