นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศในวันนี้ว่า กรีซได้สิ้นสุดช่วงเวลาหลายปีที่ต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด และต้องอยู่ภายใต้โครงการความช่วยเหลือระหว่างประเทศ
"วันแห่งประวัติศาสตร์ได้เริ่มต้นสำหรับกรีซแล้ว" นายซิปราสกล่าวต่อชาวกรีซทั้งประเทศผ่านทางการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์
ทางด้านนายยานนิส สตรูนาราส ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซ กล่าวว่า กรีซยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ แม้สามารถออกจากโครงการความช่วยเหลือทางการเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เมื่อวานนี้
นายสตรูนาราสกล่าวว่า ฝ่ายการเมืองไม่ควรกลับไปสู่วังวนเก่าๆที่นำไปสู่วิกฤตการณ์
"หลังจากที่เผชิญวิกฤตการณ์เป็นเวลา 8 ปี และเข้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจถึง 3 ครั้ง กรีซก็สามารถออกจากความไม่แน่นอน และกำลังกลับสู่ภาวะปกติ" นายสตรูนาราสกล่าว
ธนาคารกลางกรีซคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจกรีซจะมีการขยายตัว 2% และ 2.3% ในปีนี้ และปีหน้าตามลำดับ ขณะที่ฐานะการคลังมีเสถียรภาพ โดยมีการเกินดุลในปีที่แล้วมากกว่า 4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และไม่มีปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด หลังจากที่ขาดดุลสูงถึง 15% ของ GDP ในปี 2551
นอกจากนี้ ตัวเลขการว่างงานได้ลดลง, การจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคธนาคารมีความมั่นคง และมีการเพิ่มทุน