เจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้แสดงความกังวลว่า การที่สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างชาตินั้น อาจส่งผลกระทบต่อการจัดซื้อและจัดหาในภาคกลาโหม
นายอีริค ชูว์นิง รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ฝ่ายนโยบายอุตสาหกรรม เปิดเผยต่อที่ประชุมของสมาคมอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศว่า ขณะนี้ตนกำลังศึกษา "ผลกระทบที่อาจมีขึ้นจากการทับซ้อนกันระหว่างซัพพลายเออร์ภาคอุตสาหกรรมทหารกับซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์พาณิชย์" โดยซัพพลายเออร์ประเภทหลังนั้นตกเป็นเป้าของการสอบสวนตามมาตรา 232 ที่อาจทำให้รถยนต์ที่ผลิตในสหภาพยุโรปนั้นถูกเก็บภาษีนำเข้า 25%
แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมหลังการประชุมดังกล่าว ระบุว่า "การสอบสวนตามมาตรา 232 จะพิจารณาว่า การนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นั้น มีขึ้นในแง่ของปริมาณหรือในกรณีที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่"
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "การสอบสวนครั้งนี้จะพิจารณาในเรื่องผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนาของสหรัฐ ตลอดจนการรักษาตำแหน่งงานและทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาระบบยานยนต์เชื่อมต่อ ยานยนต์ไร้คนขับ เซลล์เชื้อเพลิง มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บ กระบวนการผลิตขั้นสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์ที่ผลิตในสหภาพยุโรป (EU) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยรายงานเกี่ยวกับภาษีนำเข้าดังกล่าวในสัปดาห์หน้า แต่ได้เลื่อนออกไปเนื่องจากสหรัฐและสหภาพยุโรปได้เริ่มการเจรจาเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทดังกล่าว