อังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ต้องการที่จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในวันที่ 18 ต.ค. หรือภายในอีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายมองว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 18 ต.ค.นี้ ถูกมองว่าเป็นวันกำหนดเส้นตาย หลังจากความหวังที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้ภายในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เลือนหายไป และหากเส้นตายได้ถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง เป็นเดือนธ.ค.ปีนี้ หรือม.ค.ปีหน้า ทั้งสองฝ่ายก็อาจเผชิญกับทางเลือกที่อันตรายว่า จะเดินหน้าต่อ หรือจะยกเลิกการเจรจา
การที่อังกฤษและสหภาพยุโรปกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลง Brexit ออกไปอีกนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ตัวแทนการเจรจาของทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญกับความท้าทายที่จะบรรลุข้อตกลง โดยความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดในขณะนี้ก็คือว่า ยิ่งใกล้วันที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้ามากเท่าใด โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงได้นั้น ก็ยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้นเท่านั้น
จนถึงขณะนี้ อังกฤษและสหภาพยุโรปยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้กัน แม้จะมีเวลาอีกไม่ถึง 8 เดือนก่อนถึงวันที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค. 2562 เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในประเด็นสำคัญหลายประเด็น
หลายฝ่ายกังวลว่า การถอนตัวจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลงจะส่งผลให้อังกฤษเผชิญผลกระทบในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรป, ต้นทุนบัตรเครดิตที่ปรับตัวสูงขึ้น, งานเอกสารข้ามชายแดนมีความยุ่งยากมากขึ้น, การขาดแคลนยารักษาโรค, ภาวะไฟฟ้าดับ และอาจต้องหยุดบริการทางหลวงพิเศษไปเมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางไปยังฝรั่งเศส