นายอิกนาซิอัส โจนาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ตัดสินใจที่จะชะลอการดำเนินโครงการพลังงานไฟฟ้าขนาด 35 กิกะวัตต์ มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องรับมือกับยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ปรับตัวสูงขึ้น และผลกระทบที่เกิดจากการเทขายสกุลเงินรูเปียห์
นายโจนานกล่าวว่า การเลื่อนโครงการดังกล่าวอาจจะช่วยลดการนำเข้าลงได้ประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์
การตัดสินใจเลื่อนโครงการพลังงานของอินโดนีเซียนั้น เกิดขึ้นหลังจากค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียร่วงลงใกล้แตะระดับ 15,000 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในภูมิภาคเอเชียเมื่อช่วง 20 ปีที่แล้ว
ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางอินโดนีเซียพยายามใช้หลากหลายมาตรการในการสกัดการดิ่งลงของรูเปียห์ เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเข้าซื้อรูเปียห์ ส่วนรัฐบาลอินโดนีเซียก็ได้ใช้มาตรการสกัดการนำเข้าสินค้า เพื่อควบคุมการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด