นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เรียกร้องให้จีนใช้ความพยายามในการเปิดกว้างภาคการเงินในเชิงรุกและเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอี้ได้แสดงความคิดเห็นในหนังสือที่ถูกตีพิมพ์ในวาระครบรอบ 20 ปีของการก่อตั้งองค์กรวิชาการ Chinese Economists 50 Forum (CE50) โดยระบุว่า แม้ว่าจีนจะมีความคืบหน้าระดับหนึ่งในการเปิดกว้างทางการเงิน แต่ช่องโหว่ที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาภาคการเงินของประเทศก็ยังคงมีอยู่
นายอี้กล่าวว่า "ภาคส่วนที่มีการเปิดกว้างนั้น ดูเหมือนจะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่ภาคส่วนอื่นๆซึ่งมีการเปิดกว้างน้อยกว่ายังคงถูกทิ้งไว้ข้างหลังและมีความเสี่ยงอยู่มาก ซึ่งนี่เป็นประสบการณ์ที่เราได้มาจากการเปิดกว้างและปฏิรูปประเทศ"
ผู้ว่าการธนาคารจีนได้เรียกร้องให้มีการผ่อนคลายข้อจำกัดเพิ่มเติมต่อไปทั้งในด้านตราสารทุนต่างประเทศ, รูปแบบของการจัดตั้งรวมถึงคุณสมบัติของชาวต่างชาติที่เข้ามาถือหุ้นในสถานบันการเงินต่างๆ
นายอี้กล่าวว่า การออกกฎหมายและการกำหนดนโยบายควรมีความโปร่งใสมากกว่านี้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับสถาบันการเงินที่ได้รับเงินทุนมาจากต่างประเทศ
ขณะเดียวกันนายอี้ระบุว่า โครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้-ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นเซินเจิ้น-ตลาดหุ้นฮ่องกงนั้น ควรได้รับการปรับปรุงให้ดีกว่านี้ และโครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้-ตลาดหุ้นลอนดอน ก็ควรเปิดตัวออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นายอี้ยังกล่าวด้วยว่า จีนควรเพิ่มความพยายามในการปฏิรูปกลไกลการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวน เพื่อให้ตลาดเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน และเพื่อให้เงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อรับมือกับความผันผวน
นอกจากนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนยังเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามในการแปลงค่าเงินหยวนภายใต้ระบบบัญชีทุน และเพิ่มความรอบคอบในเรื่องการกำกับดูแลการไหลเข้าของกระแสเงินทุนจากต่างประเทศให้ดีขึ้น ตลอดจนพัฒนากรอบการกำกับดูแลและปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินที่มีความแข็งแรงมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความคืบหน้าในการเปิดกว้างทางการเงินต่อไป