ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่จีนขโมยเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ
-- คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะลดจำนวนของผู้ลี้ภัยที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอาศัยในสหรัฐลงเหลือ 30,000 คนสำหรับปีงบประมาณ 2562 ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค.ที่จะถึงนี้ โดยจำนวนผู้ลี้ภัยดังกล่าวถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี
-- ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียได้ปัจจัยหนุนจากตลาดรแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือนที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเตือนว่า นโยบายกีดกันการค้าที่รัฐบาลสหรัฐนำมาใช้นั้น จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
-- นายซง ฉ่าน รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน เปิดเผยกับตัวแทนจากบริษัทต่างชาติเมื่อวานนี้ว่า การดำเนินมาตรการคุ้มครองทางการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทั้งสหรัฐและจีน รวมถึงจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลก
-- นายแบร์รี่ ไอเชนกรีน ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า สหรัฐมีแนวโน้มว่า จะขาดดุลการค้ามากขึ้นในระยะใกล้นี้ เนื่องจากอัตราการออมของประเทศที่ชะลอตัวลง ภายหลังจากที่ได้มีการใช้มาตรการปรับลดภาษี
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในออสเตรเลียปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 โดยราคาในนครซิดนีย์และเมลเบิร์นร่วงลงหนักสุด
-- ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยย้ำว่า การดำเนินนโยบายการเงินขั้นต่อไปของธนาคารกลางคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารกลางจะรอให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นอีก ก่อนที่จะดำเนินการขั้นตอนดังกล่าว
-- นายหลิว ซื่อ จิ่ง ที่ปรึกษานโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนกล่าวในงานประชุมที่เมืองเทียนจินว่า สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนไม่มาก แต่จำเป็นต้องจับตาดูผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้น และตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด
-- กระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคม และท่องเที่ยวของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ราคาที่ดินโดยเฉลี่ยในญี่ปุ่น ขยับขึ้น 0.1% ในปีนี้ จากระดับปีที่แล้ว เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวที่คึกคักที่ช่วยกระตุ้นให้มีการก่อสร้างโรงแรมและร้านค้า โดยราคาที่ดินที่ปรับตัวขึ้นครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตฟองสบู่ในประเทศ