World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 24 กันยายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 24, 2018 08:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันศุกร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตก กังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นบริษัทโบอิ้งซึ่งมีการลงทุนจำนวน มากในจีนนั้น ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดร่วงลงกว่า 0.5% หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง โดย เฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล)

-- บริษัท คอมแคสต์ รุกเพิ่มวงเงินประมูลซื้อกิจการบริษัท สกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป เป็น 3.9 หมื่นล้าน ดอลลาร์ เพื่อโค่นคู่แข่งอย่างทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์

วงเงินที่คอมแคสต์ได้เพิ่มในการประมูลซื้อกิจการของสกาย ซึ่งเป็นเจ้าของซีรีส์ชื่อดังอย่าง Game of Thrones ด้วยนั้น สูงกว่าวง เงินของฟ็อกซ์ 10% ซึ่งหมายความว่า คอมแคสต์จะสามารถคว้าชัยในการประมูลเพื่อเข้าไปบริหารกิจการ และกรุยทางให้ไบรอัน โร เบิร์ตส์ ซีอีโอของคอมแคสต์ สร้างอาณาจักรแห่งธุรกิจโทรทัศน์ระดับโลก และต่อกรกับดาวรุ่งอย่างเน็ตฟลิกซ์

-- สื่อต่างประเทศหลายสำนักซึ่งรวมถึงวอลล์สตรีท เจอร์นัล และบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า จีนได้ยกเลิกแผนการ เจรจาการค้ากับสหรัฐ จากเดิมที่มีแผนว่าจะเจรจาร่วมกันในสัปดาห์หน้าที่กรุงวอชิงตัน นอกจากนี้ จีนจะไม่หันหน้าเจรจากับสหรัฐจนกว่าจะ ถึงช่วงหลังการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

สื่อระบุว่า จีนได้ยกเลิกแผนการส่งนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ให้เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจากับสหรัฐ โดยให้ เหตุผลว่า นอกเหนือไปจากการที่สหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งจะมีผลบังคับ ใช้ในวันที่ 24 ก.ย.แล้ว การที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประกาศคว่ำบาตรหน่วยงานด้านกลาโหมของจีนและผู้บริหารของหน่วยงานดัง กล่าวนั้น ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จีนตัดสินใจยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐในครั้งนี้

-- มาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่สหรัฐและจีนจะนำมาใช้ตอบโต้กันนั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ประเทศยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า จีนได้ยกเลิกแผนการเจรจาการค้ากับสหรัฐ จากเดิมที่มีแผนว่าจะเจรจาร่วมกัน ในสัปดาห์นี้ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเรียกเก็บใน อัตรา 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ เวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี สินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้เช่นกัน

-- การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอลจีเรียเมื่อวานนี้ เห็นพ้องให้คงปริมาณการผลิตเอาไว้ที่ ระดับปัจจุบัน แม้สหรัฐพยายามเรียกร้องให้โอเปกเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันก็ตาม

นายซูเฮล โมฮัมหมัด อัล มัสรูอี ประธานการประชุม JMMC กล่าวว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในปัจจุบันนั้น มีเพียงพอต่อการรักษา ตลาดน้ำมันโลกให้อยู่ในภาวะสมดุลได้ พร้อมระบุว่า โอเปกสามารถควบคุมและรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันโลกในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การ เพิ่มหรือลดปริมาณการผลิตจึงไม่มีความจำเป็น

ทางด้านนายกาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า "ในการประชุมครั้งนี้ไม่มีการทำข้อตกลงเพิ่มการผลิต และราคาน้ำมันที่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นระดับราคาที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งกลุ่มผู้ผลิตและกลุ่มผู้บริโภค"

-- -ตลาดการเงินทั่วโลกต่างก็จับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ ขณะที่มีการ คาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

นักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้น อีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้

หนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น มาจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง

-- การหาเสียงอย่างเป็นทางการสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ ก่อนที่ การเลือกตั้งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 เมษายน 2562

พรรคการเมืองต่างๆได้รับการอนุมัติให้เดินหน้าการหาเสียงและประกาศนโยบายผ่านสื่อได้ในช่วง 7 เดือนหลังจากนี้ ขณะที่ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด จากพรรคอินโดนีเซียน เดโมเครติค ออฟ สตรักเกิล ก็จะลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งอีกครั้ง โดยพบกับคู่แข่งอย่าง นายปราโบโว สุเบียนโต หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเกรทเตอร์ อินโดนีเซีย มูฟเมนท์ ซึ่งเคยลงชิงตำแหน่งมาแล้วเช่นกันเมื่อปี 2557 แต่นายโจโกวีสามารถคว้าชัยชนะไปได้ในการเลือกตั้งดังกล่าว

-- รถไฟความเร็วสูงเส้นทางระหว่างกวางโจว เสิ่นเจิ้น และฮ่องกง ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงเช้าวานนี้ โดย รถไฟความเร็วสูงขบวน G5736 ได้เดินทางออกจากสถานีฮ่องกง เวสท์ เกาลูน เมื่อเวลา 7.00 น. เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีเสิ่นเจิ้น นอร์ท เรลเวย์ ที่มณฑลกวางตุ้ง

ขณะที่ขบวนรถไฟความเร็วสูง G5711 ได้เดินทางออกจากสถานีเสิ่นเจิ้น นอร์ท เรลเวย์ เมื่อเวลา 6.44 น. ไปยังสถานีฮ่องกง เวสท์ เกาลูน

บริษัท ไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด รายงานว่า มีขบวนรถไฟความเร็วสูง 95 ขบวนที่เตรียมให้บริการในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงรถไฟ ที่จะวิ่งในระยะไกลด้วยเช่นกันอีก 13 ขบวน

-- ตลาดหุ้นหลายแห่งในเอเชียปิดทำการในวันนี้ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง, ตลาดหุ้นจีนและตลาด หุ้นไต้หวันปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.จาก สถาบัน Ifo ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดสาขาดัลลัส

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเปิดเผยรายงานการประชุ ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอส แอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ