(เพิ่มเติม) จีนออกรายงานสมุดปกขาว ชี้แจงข้อเท็จจริงและจุดยืนของจีนต่อข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 24, 2018 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลจีนได้เผยแพร่รายงานสมุดปกขาวในวันนี้ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการแสดงจุดยืนของจีนที่มีต่อความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ และการหาทางออกที่สมเหตุสมผล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หากไม่นับรวมคำนำแล้ว รายงานสมุดปกขาวซึ่งมีทั้งหมด 36,000 บทนั้น ประกอบด้วย 6 ตอนด้วยกัน ซึ่งระบุถึงความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เอื้อประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ นโยบายปกป้องทางการค้าของคณะทำงานสหรัฐ การใช้นโยบายรุกรานทางการค้าของคณะทำงานสหรัฐ ความเสียหายของนโยบายที่ไม่เหมาะสมของคณะทำงานสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจโลก และสถานะของจีน

รายงานสมุดปกขาวระบุว่า จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนารายใหญ่สุดของโลก และสหรัฐเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วรายใหญ่สุดของโลก ความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อเสถียรภาพและการพัฒนาเศรษฐกิจโลก

รายงานระบุว่า ทั้งสองประเทศมีสถานะที่แตกต่างกันในด้านการพัฒนา และมีระบบเศรษฐกิจที่ต่างกันด้วย ด้วยเหตุนี้ ข้อพิพาททางการค้าที่เกิดขึ้นในบางระดับจึงถือว่ายังอยู่ในระดับที่ปกติ อย่างไรก็ตาม จีนได้ออกแนวทางที่สำคัญเพื่อยกระดับความไว้วางใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ และจัดการกับประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นต่างกัน

ในแง่ของความเท่าเทียม ความมีเหตุมีผล และการเดินหน้าเพื่อที่จะพบกับคนละครึ่งทางนั้น ทั้งสองประเทศได้จัดตั้งกลไกการสื่อสารและการประสานงานในหลากหลายทาง เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านพาณิชย์และการค้า การเจรจาทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ และการเจรจาทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม

ทั้งสองฝ่ายได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เพื่อเอาชนะอุปสรรคทุกๆด้าน และผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าให้มีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งความพยายามดังกล่าวถือเป็นการสร้างรากฐานและสนับสนุนความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวม

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานชุดใหม่ของรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศนโยบาย "America First" นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2559 และได้เพิกเฉยต่อธรรมเนียมปฏิบัติอันเป็นปัจจัยพื้นฐานของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน และยังเพิกเฉยต่อการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งถือเป็นแนวทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

"ในทางตรงกันข้าม คณะทำงานของสหรัฐกลับดำเนินนโยบายเพียงฝ่ายเดียว ใช้นโยบายกีดกันทางการค้า และใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจ อีกทั้งกล่าวหาประเทศและภูมิภาคอื่นๆด้วยความเท็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ข่มขู่ประเทศอื่นๆผ่านทางมาตรการเศรษฐกิจ เช่น การเรียกเก็บภาษีนำเข้า และพยายามเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของตนเองด้วยการกดดันจีนอย่างหนัก"

รายงานสมุดปกขาวยังได้เน้นย้ำว่า จีนได้ออกมาตรการตอบโต้โดยพิจารณาถึงผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และเพื่อให้การค้าโลกดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยจีนพิจารณาถึงหลักการของการแก้ไขข้อพิพาทผ่านทางการเจรจาและการปรึกษาหารือ และตอบสนองประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลของสหรัฐด้วยความอดทนสูงและความเชื่อมั่นที่ดี

ที่ผ่านมานั้น ทางฝั่งจีนได้รับมือกับความคิดเห็นที่แตกต่างเหล่านี้ ด้วยทัศนคติของการแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง จีนได้เอาชนะความยากลำบากนานาประการ และใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเอาไว้ ด้วยการจัดการเจรจาหลายรอบกับฝั่งสหรัฐ และเสนอแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา

อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งสหรัฐได้กระทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม และท้าทายจีนตลอดเวลา

"ด้วยเหตุนี้ ข้อพิพาททางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงได้ขยายวงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่ได้มีการพัฒนามาเป็นเวลาหลายปี ผ่านทางการทำงานร่วมกันของรัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ข้อพิพาทการค้ายังเป็นปัจจัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อระบบการค้าพหุภาคีและหลักการแห่งการค้าเสรี"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ