สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีการพบปะกันเมื่อวานนี้ที่นครนิวยอร์ก โดยทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมภายหลังการพบปะดังกล่าว ซึ่งมีใจความสำคัญดังนี้
*ญี่ปุ่นและสหรัฐจะเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคี
สหรัฐและญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคี หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เรียกร้องให้มีการสานความสัมพันธ์ในลักษณะที่ "ต่างตอบแทนกัน"
"ผมคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง" ปธน.ทรัมป์ กล่าวขณะเริ่มต้นการประชุมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่นิวยอร์ก "สิ่งนี้มีแต่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับสหรัฐ...ผมคิดว่าสิ่งนี้จะดีขึ้นอย่างแท้จริงสำหรับทั้งสองประเทศ"
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาการค้าดังกล่าว
*สหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่การเจรจาของทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินอยู่
ญี่ปุ่นและสหรัฐได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคี ขณะเดียวกันก็เป็นการเลี่ยงไม่ให้ยานยนต์ญี่ปุ่นถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่ม ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นกังวลว่าหากสหรัฐเพิ่มภาษีนำเข้าแล้วจะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับความเสียหาย
ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีอาเบะและประธานาธิบดีทรัมป์ โดยปธน.ทรัมป์มีเป้าหมายในการจัดการกับปัญหาทางการค้ากับญี่ปุ่นซึ่งสหรัฐขาดดุลการค้าด้วย พร้อมเรียกร้องให้ทำการค้าในลักษณะที่ "ต่างตอบแทนกัน"
นายกอาเบะ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่นครนิวยอร์กซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า "ข้อตกลงวันนี้จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ ผ่านการส่งเสริมการค้า"
*สหรัฐจะไม่กดดันญี่ปุ่นให้เรียกเก็บภาษีสินค้าเกษตรต่ำกว่าระดับที่ตกลงไว้ในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก
ในส่วนของสินค้าเกษตรนั้น รัฐบาลสหรัฐ "เคารพ" จุดยืนของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะไม่ยอมอ่อนข้อให้นอกเหนือไปจากที่เคยตกลงกันไว้ในข้อตกลงการค้าเสรีที่เคยมีขึ้น เช่น ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งสหรัฐได้ประกาศถอนตัวไปก่อนหน้า
นายกอาเบะ กล่าวว่า "มาตรการกีดกันการค้าไม่ให้ประโยชน์ต่อฝ่ายใด โดยญี่ปุ่นและสหรัฐต่างได้รับผลประโยชน์จากระบบการค้าเสรี และไม่ควรมีฝ่ายใดหันหลังกลับ"
*ญี่ปุ่นและสหรัฐจะร่วมมือกับยุโรป ในการจัดการกับพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีนและประเทศอื่น ๆ
*ปธน.ทรัมป์เน้นย้ำความสำคัญของการค้าในลักษณะที่ต่างตอบแทนกัน ลดยอดขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ
*นายกอาเบะเน้นย้ำความสำคัญของการค้าที่เสรี เป็นธรรม และเป็นไปตามระเบียบกำกับดูแล