ผลการวิจัยซึ่งเผยแพร่โดยสถาบัน Chartered Institute of Procurement and Supply (CIPS) ชี้ว่า การถอนตัวของอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานยังระบุด้วยว่า ความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) ก่อนที่จะถึงเดือนมี.ค.ปีหน้านั้น อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าในส่วนของศุลกากรของอังกฤษได้ เพราะเอกสารและเช็คต่างจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก
นอกจากนี้ การควบคุมบริเวณชายแดนอย่างเข้มงวดมากขึ้นอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทสัญชาติอังกฤษขนาดใหญ่ได้ โดยบริษัท เน็กซ์ เองก็ได้เคยออกมาเตือนถึงเรื่องราคาสินค้าที่สูงขึ้นของบริษัท ส่วนฮอนด้าเองก็เคยระบุไว้ว่า Brexit แบบที่ไร้ซึ่งข้อตกลง อาจจะทำให้เอกสารเพิ่มขึ้นอีกถึง 6 หมื่นรายการ ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านปอนด์
จอห์น เกลน นักเศรษฐศาสตร์ของ CIPS กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย เราจำเป็นต้องมีช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านถึง 2 ปี และหาทางสรุปให่ได้ในช่วงดังกล่าว แนวคิดเรื่องการถอนตัวแบบไร้ซึ่งข้อตกลงนั้นถือเป็นเรื่องที่แย่มาก
จากผลการสำรวจผู้จัดการด้านซัพพลายเชนของอังกฤษและที่ตั้งอยู่ใน EU กว่า 1,300 รายนั้น พบว่า บริษัทอังกฤษ 10% มองว่า อาจจะล้มละลายได้ หากสินค้าต่างๆต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ล่าช้าที่บริเวณชายแดนแค่ 10-30 นาที