ตลาดการเงินจับตาอิตาลี หลังรัฐบาลเผยแผนงบประมาณปี 62 ไม่สน EU เรียกร้องรัดเข็มขัด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 1, 2018 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดการเงินจับตาสถานการณ์การเมืองในอิตาลีอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาลอิตาลีได้ขยายเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปี 2562 เพื่อหนุนนโยบายจากแคมเปญการเลือกตั้ง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

รัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของพรรคไฟว์ สตาร์ และพรรคเดอะ ลีก เห็นพ้องให้มีการกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปีหน้าไว้ที่ 2.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลชุดก่อนถึง 3 เท่า และคาดว่าจะทำให้สหภาพยุโรป (EU) แสดงความไม่เห็นด้วย

ด้าน EU ได้เรียกร้องให้รัฐบาลอิตาลีหาเงินมาชดเชยการขาดดุลของรัฐบาล โดยอิตาลีนับว่าเป็นประเทศที่มีการขาดดุลมากที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป และสูงสุดเป็นอันดับสองเมื่อวัดเป็นอัตราส่วนร้อยละต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เป้าหมาย 2.4% ดังกล่าวสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลชุดก่อนถึง 3 เท่า และยังสูงกว่าที่นายจิโอวานนี ทริอา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิตาลี เคยให้คำมั่นไว้ที่ 1.6%

อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่รัฐบาลเคยประกาศไว้เมื่อเดือนส.ค.ที่กว่า 3.0%

นายทริอา นักการเมืองอิสระที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต เคยให้คำมั่นว่าจะลาออกจากตำแหน่งหากตนแพ้ศึกงบประมาณ โดยขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่านายทริอาจะทำตามคำขู่ดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่สื่ออิตาลีมองว่าโอกาสที่เขาจะลาออกนั้นยังอาจมีขึ้น

สำหรับเป้าหมายขาดดุล 1.6% ของนายทริอา กับเป้าหมายขาดดุล 2.4% ที่รัฐบาลได้ประกาศไว้นั้น มีส่วนต่างอยู่ที่ประมาณ 1.75 แสนล้านยูโร (2.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในแง่ของการใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า GDP ของ 15 ประเทศสมาชิก EU จากทั้งหมด 28 ประเทศ รวมถึงกรีซ ซึ่งเป็นสมาชิก EU รายเดียวที่เป็นหนี้สูงกว่าอิตาลี ทั้งนี้ อิตาลีเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน

นายลุยจิ ดี ไมโอ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานอิตาลี และหัวหน้าพรรคไฟว์ สตาร์ มูฟเมนต์ เปิดเผยว่า งบประมาณใช้จ่ายเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น พร้อมกล่าวว่า "เราต้องอธิบายให้ตลาดเข้าใจว่า ตัวเลข 2.4% นี้แฝงไปด้วยการลงทุนที่ชาญฉลาดมากมาย ซึ่งจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจตามที่เราต้องการ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ