ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์และหุ้นโบอิ้ง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นเฟซบุ๊กที่ดิ่งลงเกือบ 2% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่สดใส และกำลังเข้าใกล้ยุคของอัตราการว่างงานที่ต่ำเป็นพิเศษ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับต่ำเช่นกัน
"สถานการณ์ซึ่งอัตราว่างงานต่ำกว่าระดับ 4% ที่คาดว่าจะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี และเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ค่าจ้างปรับตัวขึ้น ถือเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว" นายพาวเวลกล่าว
"ผมมีความยินดีที่สามารถยืนตรงนี้ และกล่าวว่า เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ส่วนเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด" นายพาวเวลกล่าว
นายพาวเวลกล่าวต่อไปว่า เพื่อป้องกันเงินเฟ้อที่จะตามมาพร้อมกับอัตราการว่างงานในระดับต่ำ เฟดจึงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
-- ผลการสำรวจของ Markit/CIPS พบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคก่อสร้างของสหราชอาณาจักรปรับตัวลงสู่ระดับ 52.1 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 53.1 หลังแตะระดับ 52.9 ในเดือนส.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคก่อสร้างยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
-- สถาบันจัดซื้อและจัดการวัสดุของสิงคโปร์ (SIPMM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลง 0.2 จุด สู่ระดับ 52.4 ในเดือนก.ย. จากระดับ 52.6 ในเดือนส.ค.
การชะลอตัวของดัชนี PMI มีสาเหตุจากการปรับตัวลงของสินค้าคงคลัง, การนำเข้า, การส่งออก และคำสั่งซื้อใหม่
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคการผลิต โดยเป็นการขยายตัวติดต่อกัน 25 เดือน
-- เนชั่นไวด์ รายงานว่า ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรมีการขยายตัวคงที่ที่ระดับ 2% ในเดือนก.ย.
เมื่อพิจารณารวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาล ราคาบ้านปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.
ราคาบ้านในภาคเหนือมีการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในไตรมาส 3 โดยราคาร่วงลง 1.7% เมื่อเทียบรายปี
เนชั่นไวด์คาดการณ์ว่า ราคาบ้านจะดีดตัวขึ้น 1% ตลอดทั้งปีนี้
-- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชุงหัว (CIER) ของไต้หวัน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลง 2.1 จุด สู่ระดับ 53.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ส่วนดัชนีบ่งชี้แนวโน้มธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าลดลง 6.5 จุด สู่ระดับ 47.6 ในเดือนก.ย. หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกัน 30 เดือน
CIER ยังเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการลดลง 1.8 จุด สู่ระดับ 50.8 ในเดือนก.ย.
-- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ระบุว่า มูดี้ส์กำลังทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) โดยมีแนวโน้มถูกปรับลดอันดับ
มูดี้ส์ระบุว่า การทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าว เกิดจากการที่ GE ประกาศว่า บริษัทจะมีกระแสเงินสด และผลประกอบการในปีนี้ ต่ำกว่าคาด จากการดำเนินธุรกิจพลังงานไฟฟ้าที่ซบเซา
"มูดี้ส์จะพิจารณาผลกระทบที่มีต่อผลประกอบการและกระแสเงินสดจากแนวโน้มการดำเนินธุรกิจพลังงานไฟฟ้าที่ย่ำแย่" แถลงการณ์ของมูดี้ส์ระบุ
ราคาหุ้น GE ร่วงลง 1.5% หลังจากมูดี้ส์ออกแถลงการณ์ดังกล่าว
-- กระทรวงกลาโหมสหรัฐยืนยันเมื่อวานนี้ว่า มีการพบสารไรซินอยู่ในซองจดหมายอย่างน้อย 2 ซองที่มีการส่งไปยังแผนกจดหมายของทางกระทรวง
ทั้งนี้ ไรซินเป็นสารพิษประเภทโปรตีน สกัดได้จากเมล็ดละหุ่ง หากร่างกายมนุษย์ได้รับเพียง 0.2 มิลลิกรัมก็จะเสียชีวิต โดยพิษของไรซินมีความรุนแรงเป็นสองเท่าของพิษงูเห่า และเป็นสารพิษจากพืชที่มีความรุนแรงมากที่สุดในโลก
ซองจดหมายดังกล่าวมีการจ่าหน้าไปยังนายเจมส์ แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐ และพลเรือตรีจอห์น ริชาร์ดสัน หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพเรือสหรัฐ
ขณะนี้นายแมททิสกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังกรุงปารีสและบรัสเซลส์ โดยไม่ได้อยู่ที่กระทรวงแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะทำการตรวจสอบสารพิษดังกล่าวอีกครั้งเพื่อยืนยันผลการตรวจในครั้งแรก
-- นายซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในจังหวัดสุลาเวสีตอนกลางเมื่อวันศุกร์ทะลุ 1,200 รายแล้ว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกหลายร้อยคน และยังมีประชาชนอีกกว่าร้อยรายถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคาร
-- นักลงทุนจับตาจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู,อังกฤษ และสหรัฐ จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.จากมาร์กิต, อียูจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP, ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ย., ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยยอดนำเข้า, ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนส.ค. ด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.