นายหลิว คุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า จีนจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุกมากยิ่งขึ้น แต่จะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รุนแรง โดยนโยบายการคลังควรจะเป็นนโยบายที่มองไปยังอนาคต มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพในการมีบทบาทที่จะกระตุ้นความต้องการ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง
รัฐมนตรีคลังจีนกล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า นโยบายการคลังเชิงรุกที่ถูกนำมาใช้จะให้ความสำคัญกับ 4 ภาคส่วน ได้แก่ การปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียม, พัฒนาการเชื่อมโยงที่ยังอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ, ส่งเสริมการบริโภค และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายหลิวระบุว่า นอกจากนโยบายลดภาษีและค่าธรรมเนียมที่มีการประกาศออกมาในช่วงต้นปีแล้ว จีนยังมีนโยบายอื่นๆ ที่ะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง และการเติบโตด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยลดภาระของบริษัทต่างๆลงมากกว่า 1.3 ล้านล้านหยวน (ราว 1.884 แสนล้านดอลลาร์) ในปีนี้
รมว.คลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังมองหามาตรการเพิ่มเติมในการปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียม ซึ่งหากมีการนำออกมาใช้ จะทำให้การขยายตัวของรายได้ทางการคลังอยู่ในระดับต่ำในช่วงไม่กี่เดือนถัดจากนี้