ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 อีกทั้งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐและจีนในปี 2562 อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น 0.9% เมื่อคืนนี้ หลังมีรายงานออกมาว่า อิหร่านส่งออกน้ำมันลดลงสู่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์แรกของเดือนต.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ การส่งออกน้ำมันของอิหร่านได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ซื้อน้ำมันพากันลดคำสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่าน อันเนื่องมาจากการที่สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นจากรายงานที่ว่า บริษัทน้ำมันที่ดำเนินการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้ปิดการผลิตน้ำมันราว 20% ขณะที่เฮอร์ริเคนไมเคิลกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่รัฐฟลอริดา
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ถ้าหากจีนได้ทำการตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีก่อนหน้านี้ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ภาวะการค้าที่ไม่สมดุลระหว่างสหรัฐและจีนเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าจีนได้ทำการตอบโต้สหรัฐแล้ว และยังกล่าวด้วยว่า จีนไม่พร้อมที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ
-- นางนิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยนางฮาลีย์ ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐเซาธ์แคโรไลนา ได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาตินับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยกย่องการทำงานของนางฮาลีย์ โดยระบุว่าเธอได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในความพยายามปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเปิดเผยชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติคนใหม่ภายในเวลา 2-3 สัปดาห์ เพื่อแทนนางนิกกี ฮาลีย์ ซึ่งได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งภายในช่วงสิ้นปีนี้
-- ราคาหุ้นของบริษัทสตาร์บัคส์พุ่งขึ้นมากกว่า 3% เมื่อวานนี้ หลังมีรายงานว่า นายบิล แอคแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเพอร์ชิง สแควร์ แคปิตัล กล่าวว่า ทางบริษัทได้ถือครองหุ้นสตาร์บัคส์จำนวน 15.2 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์
การดีดตัวขึ้นของหุ้นสตาร์บัคส์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกือบ 2% ในปีนี้ และหากนับตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนส.ค. ราคาหุ้นสตาร์บัคส์พุ่งขึ้นมากกว่า 8%
ณ เดือนก.ย. เพอร์ชิง สแควร์ แคปิตัลมีเงินทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 8.3 พันล้านดอลลาร์ และมีผลตอบแทนจากการลงทุน 15.8%
-- ธนาคารกลางรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียมีตัวเลขเกินดุลการค้าพุ่งขึ้น 69.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.363 แสนล้านดอลลาร์
การเกินดุลการค้าดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการปรับตัวดีขึ้นของระดับราคาสินค้าในต่างประเทศสำหรับการส่งออกของรัสเซีย ขณะที่การนำเข้าได้ชะลอตัวลง
-- สำนักข่าวดาวโจนส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากนักการทูตระบุว่า สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (Brexit) อาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจาก EU (Brexit) ภายในวันจันทร์หน้า
รายงานระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถลดความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นชายแดนของประเทศไอร์แลนด์ แต่ก็ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันในบางเรื่อง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายเจรจาของ EU กล่าวว่า EU ใกล้บรรลุข้อตกลงกับสหราชอาณาจักร ขณะที่นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายอาจทำข้อตกลงกันในเดือนหน้า หรืออย่างเร็วที่สุดในเดือนนี้
-- ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) เปิดเผยว่า พายุเฮอร์ริเคน "ไมเคิล" ได้ทวีความรุนแรงกลายเป็นพายุระดับที่ 3 ในช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หรือในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยขณะนี้กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริดาของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้เฮอร์ริเคนไมเคิลกลายเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่เข้าพัดถล่มทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐฟลอริด้าในรอบ 15 ปี
นายริก สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริด้า ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 35 เขตปกครองของทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐฟลอริด้าและในเขตอุทยานแห่งชาติบิ๊กเบนด์ พร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่ง โดยมีกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐ 1,250 รายเข้ามาช่วยเหลือปฏิบัติการครั้งนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 4,000 รายที่เตรียมพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่
นายสกอตต์เตือนว่า เฮอร์ริเคนไมเคิลอาจทำให้เกิดสตรอม เซิร์จ ซึ่งเป็นคลื่นขนาดใหญ่สูง 12 ฟุตในบริเวณชายฝั่ง
-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเดือนส.ค. ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 6.8% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 9.815 แสนล้านเยน หรือประมาณ 8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยออสเตรเลียจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากเวสต์แพค อังกฤษจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค.และผลผลิตภาคการผลิตและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนส.ค. ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. ฝรั่งเศสจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)