"ทรัมป์" เผยตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งหนักเป็นแค่การพักฐาน ขณะโจมตีเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยกล่าวว่า ตลาดหุ้นเพียงแต่เข้าสู่ระยะ "พักฐาน" พร้อมกับกล่าวโจมตีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า "บ้าคลั่ง" ในกรณีที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป

ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเดินทางไปร่วมรณรงค์ทางการเมืองในรัฐเพนซิลวาเนียเมื่อวานนี้ว่า "การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ เป็นการพักฐาน ซึ่งเป็นภาวะที่เรารอคอยมานาน แต่ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เฟดกำลังทำในขณะนี้"

การกล่าวโจมตีเฟดครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาเรียกร้องเฟดไม่ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป เนื่องจากไม่ต้องการให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง โดยทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารว่า "ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้รวดเร็วเหมือนกับที่ทำอยู่ในขณะนี้" และยังกล่าวด้วยว่า "เฟดกำลังทำสิ่งที่พวกเขาคิดว่าจำเป็น แต่ผมไม่ชอบสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในขณะนี้"

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 831.83 จุด หรือ -3.15% ปิดที่ 25,598.74 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น ภายหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยเมื่อเวลา 20.04 น.ตามเวลาไทยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.241% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.401%

ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน