กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกในวันนี้ โดยเตือนว่า ความตึงเครียดด้านการค้าที่ยังคงยืดเยื้อในขณะนี้อาจฉุดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียลงราว 0.9% ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของประเทศต่างๆในเอเชียเร่งเปิดตลาดเสรี เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการส่งออกที่ทรุดตัวลง
ทั้งนี้ IMF ได้คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียในปีนี้ที่ระดับ 5.6% แต่ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียในปีหน้าลงสู่ระดับ 5.4% ซึ่งลดลง 0.2% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.
การปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในครั้งนี้ เนื่องจากผลกระทบของความตึงเครียดในตลาดการเงิน และการคุมเข้มนโยบายการเงินในบางประเทศ รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐและจีน
ขณะเดียวกัน IMF คาดว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งรวมถึงการตอบโต้ทางการค้าครั้งใหม่ จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนสูญเสียไป 1.6% ซึ่งใกล้เคียงกับการสูญเสีย GDP ที่ระดับ 1% ของสหรัฐ
ทั้งนี้ IMF เตือนว่า ภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดเกิดใหม่นั้น จะเลวร้ายลงอีก หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารในประเทศขนาดใหญ่รายอื่นๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมระบุว่า การหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ความตึงเครียดด้านการค้าที่สูงขึ้น ตลอดจนความไม่แน่นอนด้านการเมืองและนโยบาย จะส่งผลให้ภาวะด้านการเงินมีความตึงเครียดมากขึ้น