นายเอดูอาร์โด โซลิส ประธานสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์เม็กซิโก (AMIA) เปิดเผยว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเม็กซิโกจะยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ แม้จะต้องเผชิญกับข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นภายใต้ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา" (United States-Mexico-Canada Agreement) หรือ USMCA ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ระหว่าง 3 ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ
นายโซลิสยังกล่าวด้วยว่า กฎระเบียบที่ระบุไว้ในข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ USMCA ถือเป็นเป้าหมายและเป็นความท้าทายใหม่สำหรับบริษัทต่างๆที่จะดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎระเบียบดังกล่าว พร้อมระบุว่า ตนไม่คาดว่าการลงทุนจะลดลง เนื่องจากภาคธุรกิจจะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ ในการปฎิบัติตามข้อกำหนดของกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (Rule of Origin) ซึ่งไม่เพียงแต่ซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังเข้มงวดมากยิ่งขึ้นด้วย"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อตกลงการค้าเสรี USMCA ซึ่งนำมาใช้แทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับเดิมนั้น ได้เพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับ สำหรับยานยนต์ขนาดเล็กจ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันการดำเนินนโยบายการค้าเสรีระหว่างสามประเทศ
นอกจากนี้ข้อตกลงการค้าดังกล่าวที่เพิ่งจะบรรลุความเห็นชอบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมานั้นยังกำหนดให้ยานพาหนะราว 40% ต้องผลิตขึ้นในพื้นที่ที่ค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงานอยู่ที่ 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง
นายโซลิสกล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อกำหนดใหม่มีเป้าหมายที่จะรวมตัวกันในอุตสาหกรรมในอเมริกาเหนืออย่างชัดเจน ซึ่งหมายถึงการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เม็กซิโกถือเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ขนาดเล็กรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยมียอดการผลิตอยู่ที่ประมาณ 3.8 ล้านคันในปี 2560