World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 30, 2018 09:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 245.39 จุด หรือ 0.99% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาททางการค้า หลังจากสื่อรายงานว่าสหรัฐวางแผนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐกำลังเตรียมเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ หากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน

นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงจะพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในเดือนหน้า

ทั้งนี้ สหรัฐอาจประกาศเรียกเก็บภาษีรอบใหม่ต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าที่เหลือของจีนที่ยังไม่ถูกเก็บภาษีก่อนหน้านี้ โดยการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่จะคิดเป็นมูลค่า 2.57 แสนล้านดอลลาร์

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความ ระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสหรัฐมีสาเหตุมาจากสื่อที่เผยแพร่ข่าวลวง

"ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศของเรามีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการรายงานข่าวที่ไม่ถูกต้อง และหลอกลวง โดยสื่อที่รายงานข่าวลวง ซึ่งเป็นศัตรูตัวจริงของประชาชน จะต้องยุติการเผยแพร่ข่าวที่สร้างความเกลียดชัง และต้องรายงานข่าวที่มีความถูกต้องและยุติธรรม ซึ่งจะช่วยดับความโกรธ และความไม่พอใจ เราจึงจะสามารถนำทุกฝ่ายกลับมาสู่ความสงบและความปรองดอง การเผยแพร่ข่าวลวงจะต้องยุติลง" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังทวีตข้อความ ระบุว่า "สื่อที่รายงานข่าวลวงกำลังทำทุกอย่างเพื่อกล่าวหาว่าพรรครีพับลิกัน, กลุ่มอนุรักษ์นิยม และตัวผมเป็นผู้ที่สร้างความแตกแยก และความเกลียดชังในประเทศของเรา ซึ่งที่จริงแล้ว สำนักข่าวที่เผยแพร่ข่าวลวง และไม่ซื่อสัตย์ต่างหากที่ได้สร้างปัญหามากกว่าที่พวกเขาเข้าใจ"

การทวีตข้อความของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงในโบสถ์ยิวในเมืองพิทส์เบิร์ก จนส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน รวมทั้งการที่มีผู้ส่งพัสดุใส่วัตถุระเบิดไปยังผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับปธน.ทรัมป์

-- นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 5 และจะไม่ชิงตำแหน่งประธานพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) หลังจากที่ทางพรรคมีผลการเลือกตั้งที่น่าผิดหวังในรัฐเฮ็สเซิน

นางแมร์เคิลกล่าวว่า ตนจะไม่ดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมือง หลังจากที่สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2564 โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่นางแมร์เคิลยืนยันว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ขึ้นครองอำนาจนับตั้งแต่ปี 2548

สำหรับพรรค CDU มีผลการเลือกตั้งที่น่าผิดหวังเมื่อวานนี้ โดยแม้ทางพรรคยังคงเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด แต่ก็ได้เพียง 27% เทียบกับระดับ 38.3% เมื่อ 5 ปีก่อน ด้านพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ได้รับคะแนนเสียง 20% ลดลงจากระดับ 30.7%

ทั้งนี้ พรรคที่มีผลการเลือกตั้งที่น่าพอใจคือพรรคกรีนส์ ซึ่งได้คะแนนเสียง 19.5% นับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของทางพรรคในการเลือกตั้งระดับรัฐ

-- สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างข้อมูลจากเอกสารประจำเครื่องบินที่ระบุว่า เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ที่ประสบเหตุตกหลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในกรุงจาการ์ตา เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองปังกัลปีนัง ประสบปัญหาเครื่องวัดการบิน (instrument) ขัดข้องก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน

เอกสารประจำเครื่องบินของเที่ยวบินจากเกาะบาหลีสู่กรุงจาการ์ตาระบุว่า เครื่องวัดการบินดังกล่าว "ไม่น่าไว้วางใจ" และกัปตันต้องส่งมอบหน้าที่ให้นักบินที่ 2 ช่วยควบคุมการบิน

สำหรับเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน JT 610 ประสบเหตุตกลงในทะเล หลังเดินทางมุ่งหน้าออกจากกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 189 คน เมื่อวานนี้ ขณะที่นับจนถึงตอนนี้ยังไม่พบร่องรอยของผู้รอดชีวิตแต่อย่างใด ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์และสัมภาระส่วนตัว รวมถึงรองเท้าเด็ก ส่วนครอบครัวและญาติเดินทางไปยังสนามบินเพื่อระบุเอกลักษณ์บุคคลของผู้เคราะห์ร้ายแล้ว

เหตุดังกล่าวถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 737 แมกซ์ ซึ่งพัฒนาขึ้นจากเครื่องบินโบอิ้ง 737

-- นางเอมอร ศรีวัฒนประภา ภรรยาของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี พร้อมกับนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เดินทางถึงสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวานนี้

โดยนางเอมอร และนายอัยยวัฒน์ได้วางช่อดอกไม้ด้านนอกสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อนายวิชัย และผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการปรากฎตัวครั้งแรกของนางเอมอร และนายอัยยวัฒน์ นับตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว

-- สำนักข่าว CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่พบพัสดุต้องสงสัยที่สำนักงานไปรษณีย์แห่งหนึ่งในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย โดยจ่าหน้าถึงสำนักข่าว CNN อย่างไรก็ดี CNN Center ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในเมืองแอตแลนตา ไม่ได้เผชิญอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากพัสดุทั้งหมดที่มีการจ่าหน้าถึง CNN จะถูกตรวจสอบในสถานที่ซึ่งอยู่นอกตัวอาคารสำนักงาน

เจ้าหน้าที่สหรัฐสามารถจับกุมตัวนายซีซาร์ ซายอค จูเนียร์ วัย 56 ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งพัสดุ 12 ชิ้นที่มีการบรรจุวัตถุระเบิดอยู่ภายในไปยังบุคคลต่างๆที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของการส่งพัสดุต้องสงสัยดังกล่าว ได้แก่ อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา, อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และนางฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง, นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ, นายจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงิน, นายโรเบิร์ต เดอ นีโร นักแสดงชื่อดัง และสำนักข่าว CNN รวมทั้งสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรคเดโมแครต และผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตอีกหลายคน อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของการส่งพัสดุดังกล่าว ล้วนแต่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของปธน.ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงนายเดอ นีโร ที่มักกล่าวโจมตีปธน.ทรัมป์ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ CNN โดยเคยกล่าวหาว่า CNN มักรายงานแต่ข่าวลวง หากนายซายอคถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง เขาจะถูกจำคุกเป็นเวลา 58 ปี

-- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ได้ยื่นข้อเสนอในการปรับลดภาษีซื้อรถยนต์ลง 50% โดยมีจุดประสงค์เพื่อกอบกู้ตลาดยานยนต์ในประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ

รายงานระบุว่า มาตรการปรับลดภาษีดังกล่าวคาดว่าจะครอบคลุมรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ไม่เกิน 1.6 ลิตร โดยทาง NDRC ได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวไปแล้วแต่ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ในประเด็นนี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ตลาดยานยนต์ของจีนเผชิญกับช่วงขาลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษ หลังการทำสงครามการค้ากับสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของชาวจีน โดยยอดขายยานยนต์ในจีนนั้นปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 เดือนแล้ว และคาดว่าเมื่อนับตลอดทั้งปีแล้วยอดขายรถยนต์จะปรับตัวลดลงเป็นปีแรกในรอบ 20 ปี

-- นายมาร์ค โมเบียส ประธานกรรมการบริหาร เทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ กรุ๊ป และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะทรุดตัวลงมากขึ้น หากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้การเลือกตั้งกลางเทอมในสัปดาห์หน้า

"ถ้าหากพรรคเดโมแครตสามารถเข้าควบคุมสภาคองเกรส ผมเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีการปรับฐานรุนแรงขึ้น" นายโมเบียสกล่าว

นอกจากนี้นายโมเบียสยังระบุว่า สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ภาวะซบเซาในตลาด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 6% ในเดือนนี้

เขากล่าวว่า หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีได้ทรุดตัวลงราว 20% ซึ่งหากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป ก็จะส่งสัญญาณที่ย่ำแย่สำหรับหุ้นกลุ่มดังกล่าว เพราะจะไม่มีการระดมทุน 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับบริษัทที่ขาดทุนอีกต่อไป

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย. ฝรั่งเศส และอียูจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ขณะที่เยอรมนีจะเปิดเผยอัตราว่างงานและอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผย ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และยอดค้าปลีกเดือนก.ย. อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Gfk ส่วนจีนจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ด้านญี่ปุ่นธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. เยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย. อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนต.ค.และอัตราว่างงานเดือนก.ย. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ