World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 1, 2018 17:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศสมัยที่ 2 ในปี 2563 แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อพิพาทหลายด้านจนทำให้มีคะแนนนิยมลดลงบ้าง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และฐานเสียงยังคงมั่นคง โดยผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.นี้ จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะบ่งชี้อนาคตของปธน.ทรัมป์

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเชื่อมั่นว่า พรรครีพับลิกันจะยังคงได้เสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ปธน.ทรัมป์เดินหน้าหาเสียงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศึกเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 6 พ.ย.นี้

-- นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐมีแผนที่จะยกเว้นการคว่ำบาตรประเทศพันธมิตรที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน โดยไม่มีการระบุว่าประเทศใดบ้างจะได้รับการยกเว้น แต่คาดกันว่าหนึ่งในนั้นจะมีญี่ปุ่นอยู่ด้วย

-- นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยผ่านรายการวิทยุ "ลอรา อินเกรแฮม โชว์" ว่าเขาจะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือในสัปดาห์หน้า เพื่อเดินหน้าการเจรจาเกี่ยวกับกระบวนการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และหารือกันในเรื่องการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ซึ่งคาดว่าจะจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

-- ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยรายงานข้อเสนอการผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐที่มีสินทรัพย์ไม่เกิน 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบอันเข้มงวดที่ได้นำมาใช้หลังจากเกิดวิกฤตทางการเงินในปี 2551

-- นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ทางการจีนอาจปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าแตะระดับ 7 หยวน/ดอลลาร์ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า และไม่น่าจะเข้ามาแทรกแซงการอ่อนค่าของเงินหยวนด้วยการเทขายเงินดอลลาร์ให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างที่เคยทำเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ด้วย โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะปีนี้ปัจจัยที่ทำให้เงินหยวนอ่อนค่านั้นไม่เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา และเงินหยวนมีความเป็นเสรีและสากลมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของจีนในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 50.1 ในเดือนต.ค. ขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 50.0 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.0

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 นั้นบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

-- กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ประจำเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 22.7% แตะที่ระดับ 5.497 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ปรับตัวขึ้น

ส่วนยอดนำเข้าเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 27.9% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 4.842 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าในเดือนต.ค.ทั้งสิ้น 6.55 พันล้านดอลลาร์

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 เดือน โดยดัชนี CPI เดือนต.ค.ขยายตัวรวดเร็วขึ้นจากเดือนก.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.9%

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนี CPI เดือนต.ค.ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งนั้น มาจากราคาสินค้าเกษตรและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น โดยราคาสินค้าเกษตรพุ่งขึ้น 8.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน เพิ่มขึ้น 11.8%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ยอดเกินดุลการค้าเมื่อปรับค่าตามฤดูกาลประจำเดือนก.ย. พุ่งขึ้นแตะ 3.017 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นยอดเกินดุลที่สูงที่สุดนับแต่เดือนก.พ. 2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ