กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเม.ย.-ก.ย.ทั้งสิ้น 10.65 ล้านล้านเยน (9.4 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนจากต่างชาติ
รายงานระบุว่า แม้ญี่ปุ่นจะมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงครึ่งปีถึง 9 ปีติดต่อกัน แต่ยอดเกินดุลในช่วงเดือนดังกล่าวลดลง 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การนำเข้าสินค้าในกลุ่มพลังงานฉุดยอดเกินดุลการค้าให้ลดลงถึง 57% แตะที่ 1.17 ล้านล้านเบน
ทั้งนี้ อุปสงค์รถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนภาพรวมของการส่งออกญี่ปุ่น ขณะที่การนำเข้าสินค้าประเภทก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบเป็นปัจจัยที่ฉุดยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด
ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 6.5% เทียบรายปี แตะที่ 40.02 ล้านล้านเยนในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. ส่วนยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 11.5% แตะที่ 38.85 ล้านล้านเยน ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 43.6% แตะที่ 73.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเวลาดังกล่าว