นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีอังกฤษได้ลงมติอนุมัติร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากร่างข้อตกลงดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบร่วมกันระหว่างตัวแทนการเจรจาของอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
"สิ่งที่คณะรัฐมนตรีอังกฤษได้ตัดสินใจร่วมกันก็คือ รัฐบาลควรเห็นชอบต่อร่างข้อตกลง Brexit และร่างแถลงการณ์ทางการเมือง การตัดสินใจของดิฉันนั้น คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และดิฉันเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมด้วยความคิดและจิตใจของดิฉันว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่เล็งถึงผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับสหราชอาณาจักร" นางเมย์ได้แถลงต่อสื่อมวลชนที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น
-- นายโซเรน สโค ผู้บริหารของ A.P. Moller-Maersk A/S ซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการห้ามไม่ให้สหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีน โดยระบุว่า ยอดส่งออกสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐปรับตัวขึ้น 5-10% ในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าจากสหรัฐไปยังจีนลดลงถึง 25-30%
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) หลังจากราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า แอปเปิลอาจประสบปัญหายอดขาย iPhone ที่ตกต่ำในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น จะนำไปสู่การใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อภาคธนาคาร
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,080.50 จุด ลดลง 205.99 จุด หรือ -0.81% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,701.58 จุด ลดลง 20.60 จุด หรือ -0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,136.39 จุด ลดลง 64.48 จุด หรือ -0.90%
-- นักวิเคราะห์จาก Guggenheim Partners ประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล อิงค์ สู่ระดับ neutral จาก buy และยกเลิกเป้าหมายราคาที่ระดับ 245 ดอลลาร์
Guggenheim Partners คาดว่า ยอดขาย iPhone จะลดลง 5% ในปีหน้า และราคา iPhone ที่แพงขึ้นจะไม่สามารถชดเชยยอดขายที่ตกต่ำลง
นอกจากนี้ ยูบีเอสประกาศปรับลดคาดการณ์ยอดขาย iPhone ในไตรมาสปัจจุบัน สู่ระดับ 73.5 ล้านเครื่อง จากเดิมที่ระดับ 75 ล้านเครื่อง
ยูบีเอสยังได้ปรับลดเป้าหมายราคาในช่วง 12 เดือนของหุ้นแอปเปิลจากระดับ 240 ดอลลาร์ สู่ระดับ 225 ดอลลาร์
ยูบีเอสระบุว่า ยอดขาย iPhone ในต่างประเทศได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์
-- ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะเดินทางเยือนตุรกีในวันที่ 19 พ.ย.
ปธน.ปูติน และนายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี จะเข้าร่วมพิธีฉลองการเสร็จสิ้นการก่อสร้างท่อส่งก๊าซ TurkStream
-- นายจอห์น สโลซาร์ ประธานสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิกของฮ่องกง กล่าวขอโทษต่อผู้โดยสารในวันนี้ กรณีที่มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวผู้โดยสารราว 9.4 ล้านคน แต่เขาได้ปฏิเสธที่ว่าบริษัทได้พยายามปกปิดเรื่องดังกล่าว โดยมีการเปิดเผยเรื่องนี้หลังจากที่เกิดเหตุแล้วนานหลายเดือน
นายสโลซาร์ยืนยันว่า หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในอนาคต ทางบริษัทก็จะทำการรีบเปิดเผย และรีบแจ้งต่อหน่วยงานของรัฐบาล
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.
การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI ได้แรงหนุนจากการดีดตัวของราคาค่าเช่า และพลังงาน
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย.
-- นายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด ฟาราจ ฟาริส อัล มาสโรอี ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก กล่าวว่า สมาชิกโอเปกบรรลุฉันทามติที่จะสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมในวันที่ 6 ธ.ค. เพื่อสร้างความสมดุลต่อตลาดน้ำมัน
ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปีหน้า
-- นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการฉุกเฉินเพื่อสกัดการทรุดตัวของราคาน้ำมันในขณะนี้ โดยควรพิจารณาราคาน้ำมันในระยะยาว หากจะทำการตัดสินใจใดๆ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ดิ่งลงในระยะนี้จากความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของปริมาณน้ำมัน และการร่วงลงของอุปสงค์
นายโนวัคกล่าวว่า ราคาน้ำมันอยู่ในระดับเฉลี่ย 70 ดอลลาร์ในปีนี้ และตลาดมีความผันผวนในระยะนี้ ซึ่งผู้ผลิตน้ำมันไม่ควรมีปฏิกริยาต่อปัจจัยผันผวนที่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้ง
-- นายบิล แพสเครล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ข้อตกลงทางการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำไว้กับเม็กซิโกและแคนาดา จะไม่สามารถผ่านการอนุมัติของสภาผู้แทนราษฎร หากไม่มีการแก้ไข
นายแพสเครลระบุว่า ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ที่จะเข้ามาแทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) จำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขในรัฐสภา
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ โดยออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. ขณะที่อังกฤษเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เยอรมนีมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.