สมาชิกอาวุโสของพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยังคงเดินหน้าการเจรจาต่อรองเรื่องงบประมาณของรัฐบาลในสภาคองเกรสต่อไป อาจจะมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐบางส่วนเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐ และโฆษกของวุฒิสภาสหรัฐอีกสมัยภายหลังการเลือกตั้งกลางเทอม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เราเชื่อว่า หากประธานาธิบดีทรัมป์ปลีกตัวออกจากกระบวนการจัดสรรงบประมาณ เราก็จะได้ข้อตกลงที่ดีจากทั้ง 2 พรรค และรัฐบาลก็จะสามารถเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น
การแสดงความเห็นของชูเมอร์เกิดขึ้นในช่วงงบประมาณปัจจุบันของรัฐบาล ซึ่งครอบคลุมถึงหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะหมดอายุลงในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ขณะที่ทรัมป์เองได้ผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก เพื่อกันกลุ่มผู้อพยพไม่ให้เข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย
ชูเมอร์ กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณสูงสุดถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดน ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ให้การอนุมัติการดำเนินการที่ครอบคลุมเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด, การเซ็นเซอร์, โดรน และถนนหนทาง ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการสร้างกำแพง