World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 16, 2018 09:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยกับผู้บริหารในแวดวงอุตสาหกรรมของสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว

ทั้งนี้ แม้ว่าโฆษกของนายไลท์ไฮเซอร์ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวของไฟแนนเชียล ไทม์สในเวลาต่อมา แต่ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกจนกระทั่งปิดทำการซื้อขาย

-- นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐยังคงมีแผนที่จะปรับเพิ่มอัตราเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในเดือนม.ค. หลังมีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ว่าสหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง

-- มีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. เพื่อเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

อย่างไรก็ดี สหรัฐระบุก่อนหน้านี้ว่า การเจรจาการค้าจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าจีนจะยื่นข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมในการปฏิรูปนโยบายการค้า

ทางด้านนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า จีนจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามเย็นครั้งใหม่กับสหรัฐ

-- แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า จีนได้ส่งหนังสือตอบกลับข้อเรียกร้องของสหรัฐก่อนหน้านี้ที่ต้องการให้จีนทำการปฏิรูปนโยบายการค้า ซึ่งเป็นการดำเนินการที่จะช่วยให้สหรัฐและจีนเปิดฉากการเจรจาการค้าครั้งใหม่ และยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกัน

แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือตอบกลับจากจีนดังกล่าว และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า คำตอบของจีนจะสร้างความพึงพอใจต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่

-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวในการแถลงข่าวว่า ตนจะพยายามผลักดันให้การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ประสบความสำเร็จ โดยจะดำเนินการอิงตามร่างข้อตกลง Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU)

นอกจากนี้ นางเมย์ยังปฏิเสธข่าวที่ว่า ตนจะลาออก โดยระบุว่า "ดิฉันจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป"

การแถลงข่าวของนางเมย์มีขึ้น หลังจากที่รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีของนางเมย์ยังคงลาออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลง Brexit ที่นางเมย์ได้ยื่นต่อ EU

-- นางซูเอลลา เบรเวอร์แมน รัฐมนตรีช่วยฝ่ายกิจการ Brexit และนางแอน-มารี เทรเวลแยน รัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ ประกาศลาออกเมื่อคืนนี้ ตามการลาออกของนายโดมินิค แรบ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนางเอสเธอร์ แมคเวย์ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการบำนาญของอังกฤษ ก่อนหน้านี้

รัฐมนตรีทั้ง 4 ต่างก็เป็นผู้สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวจาก EU โดยพวกเขาระบุว่า ข้อตกลง Brexit ระหว่างอังกฤษและ EU ไม่ได้บ่งชี้ถึงการแยกตัวอย่างเด็ดขาดจาก EU ตามที่ชาวอังกฤษที่ลงประชามติในปี 2559 ต้องการ

-- บริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีรายได้ 1.2489 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.2555 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทมีกำไร 1.08 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 3.4% ในสหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1%

-- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 พ.ย.

ทั้งนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 5 ครั้งติดต่อกัน เพื่อควบคุมการคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อ และดูแลเป้าหมายเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบของนโยบาย

นอกจากนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนและเงินฝากด้วยเช่นกัน

-- กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรชาวซาอุดีอาระเบีย 17 รายเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการสังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย

ทั้งนี้ ผู้ที่มีรายชื่อถูกคว่ำบาตร ได้รวมถึง นายโมฮัมเหม็ด อโลไตบี กงสุลใหญ่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานกงสุลในกรุงอิสตันบูล รวมทั้งนายมาเฮอร์ มูเตรบ เจ้าหน้าที่อาวุโสของซาอุดีอาระเบีย

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ย.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดการรายงานในวันนี้ เยอรมนีเตรียมรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. เวลา 14.00 น. ตามเวลาไทย

ยูโรโซนเตรียมรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. เวลา 17.00 น.

และสหรัฐเตรียมรายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. เวลา 21.15 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ