บรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า ภาคธนาคารของสหรัฐมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2561
FDIC ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์และสถาบันออมทรัพย์ของสหรัฐที่รับประกันเงินฝากโดย FDIC มีรายได้สุทธิ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 พุ่งขึ้นจากปีที่ผ่านมา 29.3%
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า สถาบันการเงินที่รับประกันโดย FDIC มากกว่า 70% จากทั้งหมด 5,477 แห่ง รายงานรายได้สุทธิเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
นางเฮเลนา แมควิลเลียมส์ ประธาน FDIC กล่าวว่า นับเป็นอีกไตรมาสหนึ่งที่ธุรกิจธนาคารรายงานผลประกอบการแข็งแกร่ง พร้อมกล่าวด้วยว่า รายได้สุทธิที่ปรับตัวขึ้นมีปัจจัยมาจากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราภาษีที่ลดลง
FDIC ระบุด้วยว่า จำนวนธนาคารที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในไตรมาสที่ 3 ลดลงเหลือ 3.5% จากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 4%
นางแมควิลเลียมส์ กล่าวว่า ยอดสินเชื่อเพิ่มขึ้น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวขึ้น ขณะที่จำนวน "ธนาคารที่มีปัญหา" ลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี นางแมควิลเลียมส์ เตือนว่า อัตราดอกเบี้ยซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำมาเป็นเวลานาน และการแข่งขันกันดึงดูดผู้กู้ ได้นำไปสู่ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
นางแมควิลเลียมส์ กล่าวว่า "ธนาคารต้องบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อรักษาระดับการปล่อยกู้ผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน