World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 22, 2018 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยว่า WTO จะจัดตั้งคณะทำงานระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body - DSB) ขึ้นมา เพื่อรับฟังข้อเรียกร้องจากประเทศต่างๆเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐ โดยจะแบ่งออกเป็นคณะผู้พิจารณา เพื่อรับฟังข้อร้องเรียนจาก สหภาพยุโรป (EU) แคนาดา เม็กซิโก นอร์เวย์ รัสเซีย และตุรกี และคณะทำงานอีกหนึ่งชุด เพื่อรับฟังข้อร้องเรียนจากสหรัฐในเรื่องการจัดเก็บภาษีเพื่อการตอบโต้

-- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษจะขยายตัว 1.3% ปีนี้ และขยายตัว 1.4% ในปีหน้า

ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์ GDP ในปีหน้าได้ถูกปรับเพิ่มขึ้น 0.1% แม้ว่าจะมีปัจจัยความไม่แน่นอนของการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไรก็ตาม OECD คาดว่า GDP ในปี 2563 ของอังกฤษจะขยายตัวเพียง 1.1%

-- ทำเนียบขาวได้อนุมัติให้นายจิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ เพิ่มอำนาจให้กับกองกำลังทหารบริเวณชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ในการปกป้องคุ้มครองหน่วยงานด้านศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณตามชายแดน หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น

จุดประสงค์ของการเพิ่มอำนาจหน้าที่ดังกล่าวให้กับรัฐมนตรีกลาโหมก็คือ การเน้นปกป้องเจ้าหน้าที่จากหน่วยศุลกากรและการคุ้มกันเขตแดนซึ่งตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ตามแนวเขตแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก

-- คณะกรรมการที่รับผิดชอบในการจัดทำแผนกลยุทธ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการปรับเพิ่มเกณฑ์การเกษียณอายุงานของประชาชน จาก 65 ปี เป็น 70 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะสังคมผู้สูงอายุ

รายงานของคณะกรรมการฯยังได้เรียกร้องให้บริษัทขนาดใหญ่เปิดเผยอัตราส่วนของพนักงานในแต่ละช่วงวัย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้บริษัทมีการจ้างงานพนักงานวัยกลางคน เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะรับพนักงานจบใหม่เป็นจำนวนมาก

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเศรษฐกิจประจำเดือนพ.ย.ว่า เศรษฐกิจของประเทศยังคงฟื้นตัว ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง แม้ว่าสถานการณ์ทางการค้าจะตึงเครียดมากขึ้น รวมทั้งมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ก็ตาม

รายงานระบุว่า การบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น กำลังฟื้นตัวขึ้น และการใช้จ่ายของบริษัทต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในขณะที่การส่งออกเกือบจะทรงตัว เนื่องจากความต้องการสมาร์ทโฟนในเอเชียที่ร่วงลงได้ส่งผลกระทบต่อยอดสั่งซื้อส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ด้านการผลิต

นอกจากนี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรียังได้เตือนถึงผลกระทบด้านลบจากการค้าต่อระบบเศรษฐกิจโลก เช่น สหรัฐ และ จีน ที่ต่างทำสงครามภาษีจนส่งผลกระทบต่อสินค้านำเข้ามูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์

-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยภายในประเทศพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยราคาน้ำมันเบนซินเกรดมาตรฐาน เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ต่อแกลลอน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557

รายงานประจำสัปดาห์ของ EIA เกี่ยวกับราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล ระบุว่า ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันเริ่มต้นที่ 2.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน เมื่อวันที่ 1 มกราคม และพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 2.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ปี 2561 ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินเคลื่อนไหวในช่วง 2.85-2.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) รายงานว่า อัตราส่วนหนี้สินต่างประเทศที่จะครบกำหนดไม่ถึงหนึ่งปีต่อทุนสำรองต่างประเทศ อยู่ที่ 31.8% ณ สิ้นเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงสามเดือนก่อนหน้า และเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2558

ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่างประเทศระยะสั้นต่อหนี้สินต่างประเทศทั้งหมดอยู่ที่ 28.5% ในไตรมาสสาม เพิ่มขึ้น 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้านั้น

-- รัฐบาลอาร์เจนตินาให้คำมั่นว่าจะปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่นิยมระบอบอนาธิปไตยและต่อต้านระบบทุนนิยม ซึ่งพยายามจะขัดขวางการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนส ไอเรสในสัปดาห์หน้า พร้อมระบุว่า อาร์เจนตินาจะร่วมมือกับรัฐบาลต่างชาติในการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงเข้ามาสร้างปัญหาในการประชุม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ