นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังถูกจับกุมในญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้ว่าจ้างบริษัท Paul, Weiss, Rifkind, Wharton & Garrison ซึ่งบริษัทกฎหมายของสหรัฐ เพื่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหาว่าแจงรายได้ในรายงานการถือครองหลักทรัพย์ต่ำกว่าความเป็นจริง
ขณะนี้นายกอส์น อดีตประธานและประธานบริหารบริษัทเรโนลต์ เอสเอ อีกทั้งเป็นอดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานกักกันในกรุงโตเกียว ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังอัยการญี่ปุ่นอนุมัติหมายจับในความผิดฐานชี้แจงรายได้จากนิสสันต่ำกว่าความเป็นจริงราว 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงระยะเวลา 5 ปี
ก่อนหน้านี้บริษัทนิสสันเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ส่งเรื่องให้กับเจ้าหน้าที่หลังการตรวจสอบภายในพบการประพฤติอันมิชอบทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนที่บอร์ดบริหารของบริษัทนิสสันจะมีมติปลดนายกอส์นออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นับจนถึงตอนนี้นายกอส์นยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาใดๆ ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลกรุงโตเกียวอนุมัติให้ควบคุมตัวนายกอส์นได้จนถึงช่วงปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากในญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและสอบปากคำผู้ต้องสงสัยได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยไม่ต้องตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากข้อกล่าวหาของอัยการญี่ปุ่นแล้ว ผลการสอบสวนของบริษัทนิสสันยังระบุว่า นายกอส์นใช้เงินของบริษัทในการซื้อ และปรับปรุงที่พักอาศัยในกรุงเบรุตของเลบานอน และในเมืองริโอ เดอ เจนาโร ของบราซิล แต่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าอัยการจะดำเนินการสอบสวนประเด็นดังกล่าวด้วยหรือไม่