World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 28, 2018 09:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 108.49 จุด หรือ +0.44% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค โดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันในวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หากเขาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการหารือนอกรอบการประชุม G20

-- ทั่วโลกจับตาการพบกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างเข้าร่วมการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ขณะที่มีรายงานออกมาว่าผู้นำทั้งสองจะรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันเสาร์ที่จะถึงนี้

ด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้เริ่มต้นเจรจากับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนในทุกระดับ ก่อนจะหารือกันนอกรอบการประชุม G20 ในปลายสัปดาห์นี้

นายคุดโลว์กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำการเจรจากันเพื่อหาทางไปสู่การทำข้อตกลงทางการค้า และการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิงจะเป็นโอกาสอันดีที่จะหลุดพ้นจากการหารือที่น่าผิดหวังในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะหารือกับปธน.สี จิ้นผิงในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา, กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวกับภาษี

-- รัฐบาลอังกฤษเตรียมเผยแพร่บทวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับแบบจำลองสถานการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้ หลังจากที่ถูกสมาชิกรัฐสภาอังกฤษกดดันให้เผยแพร่รายงานดังกล่าว ก่อนที่รัฐสภาจะลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ในวันที่ 11 ธ.ค.

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ดังกล่าวยังรวมถึงการเปรียบเทียบข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ กับการที่อังกฤษยังคงอยู่กับสหภาพยุโรป

-- นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ยูเครนเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดในช่วงแคบเคิร์ชเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะประกาศจุดยืนในเรื่องดังกล่าวในอีกไม่กี่วันนี้

รัสเซียอ้างว่า เรือของยูเครนได้แล่นอยู่ในทะเลดำ ซึ่งเป็นน่านน้ำของรัสเซีย และได้ดำเนินการที่อันตราย และไม่ได้ใส่ใจต่อคำเตือนของรัสเซียที่ต้องการให้เรือทั้ง 3 ลำยุติการละเมิดน่านน้ำ

ทางด้านยูเครนระบุว่า การที่รัสเซียยึดเรือของยูเครน ถือเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว และเป็นการละเมิดสนธิสัญญาปี 2003 ที่มีการลงนามโดยประเทศที่ใช้ช่องแคบเคิร์ช และทะเลอาซอฟร่วมกัน

-- นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนในช่องแคบเคิร์ช

นางสเตฟานี ดูจาร์ริค โฆษกของนายกูเตอร์เรส ระบุในแถลงการณ์ว่า "ท่านเลขาธิการเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์เกิดความรุนแรงมากขึ้น

"ท่านเลขาธิการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น และดำเนินการที่จะควบคุมสถานการณ์ และลดความตึงเครียดผ่านแนวทางสันติวิธีตามกฎบัตรของสหประชาชาติ" แถลงการณ์ระบุ

นอกจากนี้ นักการเมืองหลายคนของยุโรปต่างเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ต่อการที่รัสเซียได้โจมตีเรือยูเครน 3 ลำ พร้อมกับยึดเรือ และลูกเรือของยูเครน

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ยืนยันว่า นางอิวานกา ทรัมป์ ที่ปรึกษาและบุตรสาวของปธน.ทรัมป์ จะเข้าร่วมในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของนายอังเดร มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเม็กซิโก ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยนางอิวานกาจะเดินทางไปเข้าร่วมพิธีดังกล่าวพร้อมกับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ

-- อะโดบี อนาลิติค ซึ่งติดตามและวิเคราะห์ยอดขายทางออนไลน์ ระบุว่า ยอดขายทางออนไลน์ในวันไซเบอร์ มันเดย์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยพุ่งขึ้น 19.3% จากปีที่ผ่านมา สู่ระดับ 7.9 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

ถึงแม้ยอดขายจากผู้บริโภคที่เดินเข้าห้างเพื่อซื้อสินค้าได้ลดลง แต่ยอดขายผ่านโทรศัพท์มือถือได้พุ่งขึ้น 55.6% ในวันไซเบอร์ มันเดย์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สู่ระดับ 2.2 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

ทางด้านบริษัทอเมซอนเปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา โดยลูกค้าซื้อของเล่นมากกว่า 18 ล้านชิ้น และซื้อสินค้าด้านแฟชั่นมากกว่า 13 ล้านรายการในวันอเมซอน แบล็ค ฟรายเดย์ และวันไซเบอร์ มันเดย์รวมกัน

-- นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือขัดขวางการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่เฟดเริ่มต้นวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558

คำกล่าวของนายแคลริดาสวนทางกับนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งอยู่ในช่วง 2.00-2.25% ในขณะนี้ ยังคงห่างไกลจากระดับที่เป็นกลาง

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก GfK ของเยอรมนี รวมถึงกำไรภาคธุรกิจไตรมาส 3/2561, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2561 (ประมาณการครั้งที่ 2), สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเบื้องต้นเดือนต.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. ของสหรัฐ ตลอดจนดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.โดยเฟดสาขาริชมอนด์ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.จากสมาคมอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยแห่งออสเตรเลีย (HIA) เยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานและอัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนพ.ย. ขณะที่อียูจะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. รวมถึงรายงานการประชุมวันที่ 7-8 พ.ย. ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะมีการเปิดเผยออกมาในช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ