นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน สู่ระดับ 40% จากปัจจุบันที่ระดับ 27.5% ก่อนที่การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่อาร์เจนตินา
นายไลท์ไฮเซอร์กล่าวว่า "นโยบายต่างๆของจีนถือว่าเลวร้ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์" พร้อมกับกล่าวว่า "ตามคำสั่งของท่านประธานาธิบดี ผมจะตรวจสอบเครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีนในอัตราที่เท่าเทียมกัน"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากประเทศต่างๆในอัตรา 2.5% แต่ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ภาษีนำเข้าจากจีนได้ถูกปรับขึ้น 25% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้จีนที่สหรัฐระบุว่า จีนได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยี
ในเดือนก.ค. จีนได้ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากประเทศต่างๆลงสู่ระดับ 15% จากระดับ 25% แต่ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐขึ้นสู่ระดับ 40% เพื่อเป็นการตอบโต้
"เมื่อพิจารณาจากความแข็งกร้าวของจีนแล้ว จะเห็นได้ว่า นโยบายต่างๆด้านอุตสาหกรรมที่รัฐบาลจีนเป็นผู้บังคับใช้นั้น กำลังสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อแรงงานและกลุ่มผู้ผลิตของสหรัฐ เราจึงต้องหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุยกับจีน แต่ถึงกระนั้น จีนก็ยังไม่เคยหันหน้าเจรจาเพื่อนำเสนอการปฏิรูปที่มีนัยสำคัญ" นายไลท์ไฮเซอร์กล่าว
รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐได้นำเข้ารถยนต์จากจีนประมาณ 58,500 คันในปี 2560