โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นผู้นำที่ทุกฝ่ายต่างจับตาท่าทีและนโยบายในการประชุมสุดยอด G20 ที่อาร์เจนตินา ท่ามกลางสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า การลอบสังหาร และวิกฤตการเงิน
ประเด็นน่าสนใจล่าสุดที่พ่วงมากับทรัมป์และสื่อต่างประเทศจับตา ได้แก่ การที่นายปีเตอร์ นาวาร์โร ซึ่งเป็นที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาว ได้เดินทางถึงยังกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ท่ามกลางข้อกังขาที่ว่า นายนาวาร์โรจะเข้าร่วมการประชุมระหว่างทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการหารือนอกรอบการประชุม G20 ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากนายนาวาร์โรนับเป็นที่ปรึกษาสายเหยี่ยวที่มีจุดยืนแข็งกร้าวกับจีน ดังนั้น หากนายนาวาร์โรเข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญที่ถูกจับตานี้ ก็อาจจะทำให้ผลการประชุมออกมาในรูปแบบที่สร้างความผิดหวังสำหรับการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้า
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็เป็นผู้นำอีกรายที่ถูกจับตาหลังจากที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังกองทัพรัสเซียได้ยิงและยึดเรือรบยูเครน 3 ลำ บริเวณนอกชายฝั่งของไครเมีย โดยอ้างว่าเรือของยูเครนรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำของรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย จนถึงขณะนี้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ยังไม่คลี่คลายลงแต่อย่างใด
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้แผนการจัดการประชุมนอกรอบซัมมิต G20 ระหว่างทรัมป์และปูตินล่ม ทรัมป์ได้ทวีตเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ตนเองได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายสัปดาห์นี้
"เนื่องจากรัสเซียยังไม่ได้ส่งคืนเรือและลูกเรือกลับสู่ยูเครน ผมจึงตัดสินใจว่าจะเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายที่ผมจะยกเลิกกำหนดการประชุมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินที่อาร์เจนตินา และผมหวังว่าจะมีโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่มีความหมายอีกในไม่ช้า เมื่อสถานการณ์ได้รับการแก้ไข" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เป็นอีกหนึ่งในผู้นำที่ตกเป็นเป้าของสื่อมาโดยตลอด หลังจากที่ถูกนานาชาติวิจารณ์ต่อกรณีการเสียชีวิตของนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย ล่าสุด แม้ทรัมป์จะอยากฟันธงว่า มกุฎราชกุมารไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของนายคาช็อกกี แต่ด้วยจุดยืนของผู้นำหลายประเทศที่พากันออกมาเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและตุรกีคลี่คลายข้อกังขาเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายคาช็อกกี ส่งผลให้ทรัมป์สงวนท่าทีและไม่ได้จัดการเจรจานอกรอบกับมกุฎราชกุมารในวันเสาร์นี้
อย่างไรก็ดี มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เตรียมประชุมนอกรอบกับประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครอง แห่งฝรั่งเศส ซึ่งประเด็นการเสียชีวิตของนายคาช็อกกีคงจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย แต่ผลพวงจะออกมาในรูปแบบใดคงต้องติดตามกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ผู้ซึ่งไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการประชุมหรือสงครามการค้าก่อนหน้าการประชุมนอกรอบกับทรัมป์จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ ถูกนักวิเคราะห์มองว่า สี จิ้นผิง คงจะไม่อ่อนข้อให้กับทรัมป์ในประเด็นที่ทำเนียบขาวอยากจะได้ ดังนั้น โอกาสที่จะข้อพิพาททางการค้าจะพบกับทางออกในการประชุมครั้งนี้ จึงดูริบหรี่ยิ่งนัก
นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาได้เดินทางถึงกรุงบัวโนสไอเรส แห่งอาร์เจนตินาแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่เคยออกมาวิจารณ์มาตรการจัดเก็บภาษีของทรัมป์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ แต่วันนี้ ทรูโดและทรัมป์อาจจะพบปะและลงนามในข้อตกลงการค้าโฉมใหม่กับเม็กซิโกก็เป็นได้ สื่อมวลชนจึงรอดูท่าทีของทรูโดในการประชุมครั้งนี้ว่า จะยืนเคียงข้างทรัมป์หรือไม่ และบรรยากาศของทั้ง 2 ฝ่ายจะออกมาในรูปแบบใด
ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี แห่งอาร์เจนตินา ซึ่งมาครีเองเป็นประธานาธิบดีขวาจัด ขณะที่อาร์เจนตินาถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของแนวโน้มการขยายตัวของลาตินอเมริกา หลังจากที่มาครีสามารถคว้าชัยชนะจนถึงขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีได้เมื่อปี 2558 ท่ามกลางประเทศมหาอำนาจในลาตินอเมริกาที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ มาครีอาจจะต้องหาทางปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในลาตินอเมริกา รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นภายในอาร์เจนตินา