ประชุมสุดยอด G20 เปิดฉากแล้ว ผู้นำโลกหารือแก้ไขความขัดแย้งการค้าสหรัฐ-จีน หวั่นทำลายศก.โลก

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday December 1, 2018 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ G20 ได้เริ่มต้นการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นระยะเวลาสองวันที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยนอกจากนโยบายการเงินและการคลังแล้ว คาดว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นหารือถึงแนวทางในการป้องกันไม่ให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ทั่วโลกรอดูว่า ที่ประชุม G20 ในครั้งนี้จะสามารถตกลงกันเพื่อออกแถลงการณ์ร่วมได้หรือไม่ หลังจากที่การประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) 21 ประเทศ เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย. ที่ปาปัวนิวกินี ปิดฉากโดยไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วมเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี เนื่องจากสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกันในประเด็นการใช้ภาษาของแถลงการณ์ร่วมฉบับสมบูรณ์ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด จากกรณีการตั้งกำแพงภาษีนำเข้ามูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ระหว่างกัน

โดยหาก G20 ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมเช่นเดียวกับเอเปก ก็จะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่การประชุมเริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2541 และจะยิ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามตามมามากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของกลไกหรือกรอบการทำงานระหว่างประเทศในการทำหน้าที่เป็นเวทีให้ประเทศต่างๆ หาข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ ทั่วโลกต่างจับตาการพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยปธน.ทรัมป์มีกำหนดรับประทานอาหารค่ำร่วมกับปธน.สีในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผู้นำทั้งสองจะเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน โดยปธน.ทรัมป์จะเจรจาในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาษี

การพบกันดังกล่าวจะเป็นการพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2560

โดยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมด หากตนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประสบความล้มเหลวในการเจรจาข้อตกลงการค้านอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส

นับจนถึงวันนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของสินค้าจีนทั้งหมดที่สหรัฐนำเข้ามาในแต่ละปี เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลจีนได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีของสหรัฐ

หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานบทสัมภาษณ์ของปธน.ทรัมป์ว่า "หากเราทำข้อตกลงกันไม่ได้ ผมก็พร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีในวงเงินเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ที่อัตรา 10% หรือไม่ก็ 25%"

สินค้านำเข้าจากจีนส่วนที่ยังไม่ถูกเก็บภาษี ซึ่งปธน.ทรัมป์ได้ขู่ที่จะเก็บภาษีนั้น รวมถึง iPhone และแล็ปท็อป ซึ่งหมายความว่าชาวอเมริกันที่ซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จะได้รับผลกระทบ

นอกจากประเด็นสงครามการค้าสหรัฐ-จีนแล้ว ผู้นำ G20 ยังจะหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงอื่นๆ ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการปรับนโยบายการเงินของสหรัฐกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่

ขณะเดียวกัน คาดว่าประเด็นค่าเงินอาจถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายในที่ประชุมด้วยเช่นกัน เนื่องจากสหรัฐได้แสดงความไม่พอใจที่เงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเพิ่มความได้เปรียบให้กับสินค้าส่งออกของจีน

นอกจากนี้ การที่รัสเซียผนวกภูมิภาคไครเมียของยูเครนเข้าเป็นดินแดนของตนเอง และกระบวนการ Brexit ของสหราชอาณาจักร ก็อาจเป็นหัวข้อพูดคุยในการประชุมครั้งนี้เช่นกัน

และยังมีรายงานด้วยว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะพบปะกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ เพื่อเตรียมหาข้อตกลงร่วมกันก่อนหน้าการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรในสัปดาห์หน้า

สำหรับสมาชิกกลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ