นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และ นายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส หารือเกี่ยวกับอนาคตการเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทรถยนต์ของสองประเทศ หลังนายคาร์ลอส กอส์น ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ ถูกทางการญี่ปุ่นจับกุมที่กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายกฯอาเบะ และปธน.มาครอง หารือร่วมกันนอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงบัวเนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดภายในกลุ่มพันธมิตรยานยนต์ระหว่างบริษัทเรโนลต์ บริษัทนิสสัน มอเตอร์ และบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ ภายหลังจากที่นายกอส์นถูกควบคุมตัวอยู่ในโตเกียว ขณะที่ปฏิเสธข้อกล่าวหาทุจริตประพฤติมิชอบทางการเงินที่บริษัทนิสสัน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นเผยสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวหลังการพูดคุยระหว่างผู้นำทั้งสองว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องถึงความสำคัญที่กลุ่มพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ ควรรักษาความสัมพันธ์กันไว้ต่อไป โดยนายอาเบะกล่าวกับนายมาครองว่า เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทรถยนต์ทั้งสามจะต้องคงความสัมพันธ์ที่มั่นคงไว้ พร้อมระบุว่า กลุ่มพันธมิตรถือเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือทางอุตสาหกรรมระหว่างญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม นายอาเบะกล่าวว่า อนาคตของกลุ่มพันธมิตรควรขึ้นอยู่กับธุรกิจเอกชน ไม่ใช่รัฐบาล
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเผยด้วยว่า การประชุมนอกรอบ G20 ระหว่างนายอาเบะและนายมาครองมีขึ้นตามคำขอของรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเรโนลต์ ที่ราว 15% อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมที่กินเวลา 15 นาที รวมถึงความเห็นของนายมาครอง
ทั้งนี้ นายกอส์น วัย 64 ปี ถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานบริษัทญี่ปุ่นทั้งสองแห่ง แต่ยังคงเป็นซีอีโอและประธานของเรโนลต์ และประธานกลุ่มพันธมิตร
ภาวะขาดผู้นำกำลังกลายเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลระหว่างนิสสัน ซึ่งต้องการให้บริษัทมีสิทธิ์มีเสียงในกลุ่มพันธมิตรมากขึ้น และเรโนลต์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มพันธมิตร ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสต้องการให้คนจากบริษัทเรโนลต์เป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรยานยนต์