World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 6 ธันวาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 6, 2018 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความกดดันไม่ให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยระบุว่า "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโอเปกจะยังคงรักษาการผลิตน้ำมันในปัจจุบัน ไม่ใช่การปรับลดลง โดยโลกไม่ต้องการที่จะเห็นราคาน้ำมันในระดับสูง"

ด้านสื่อต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย ได้จัดการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของโอมานเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมการ JMMC ได้แนะนำให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันลงจากระดับของช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. พร้อมระบุว่า รัสเซียได้เห็นพ้องถึงความจำเป็นของการปรับลดการผลิตน้ำมันเช่นกัน

-- ทางการแคนาดาได้จับกุมตัวนางเหม็ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เนื่องจากคาดว่าหัวเว่ยอาจลักลอบขายสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร

ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำแคนาดา ได้ออกแถลงการณ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลแคนาดา กรณีที่นางเหม็ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้บริหารระดับสูงรายนี้โดยเร็ว

-- ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงกว่า 300 จุดในช่วงเช้านี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มดิ่งลงในคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากทางการแคนาดาได้จับกุมตัวนางเหม็ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เนื่องจากคาดว่าหัวเว่ยอาจลักลอบขายสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร

ณ เวลา 09.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลง ร่วงลง 312 หรือ 1.25% แตะที่ 24,734 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ล่วงหน้า ลดลง 30 จุด หรือ 1.11% แตะที่ 2,671.75 จุด

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐได้ขยายตัว "ในระดับพอประมาณหรือปานกลาง" ระหว่างช่วงกลางเดือนต.ค.ไปจนถึงปลายเดือนพ.ย. ขณะที่ประเด็นมาตรการภาษีนำเข้านั้นเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้ผลิตในสหรัฐ "ยังคงวิตกกังวล"

รายงานระบุว่า "ความเชื่อมั่นได้เบาบางลงในบางเขต โดยผู้ตอบแบบสำรวจได้กล่าวถึงความไม่แน่นอนที่ปรากฏให้เห็นมากขึ้น อันเป็นผลจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปัญหาในตลาดแรงงาน"

-- เวียดนาม อินเวสเมนท์ รีวิว ซึ่งเป็นสื่อทางการของเวียดนาม รายงานว่า ฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นบริษัทรับช่วงผลิตสินค้าอิเลคทรอนิคส์รายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทซัพพลายเออร์รายใหญ่ของแอปเปิล กำลังพิจารณาสร้างโรงงานผลิต iPhone ในเวียดนาม เพื่อลดผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หากฟ็อกซ์คอนน์มีการตั้งโรงงานในเวียดนามจริง ก็จะถือเป็นการดำเนินการที่สำคัญก้าวแรกของบริษัทในภาคการผลิตขนาดใหญ่ในการโยกย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ ผลการสำรวจผู้บริหารหลายคนของจีนยังระบุว่า ไทยและเวียดนามถือเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจ หากบริษัทของพวกเขาจำเป็นต้องมองหาแหล่งผลิตสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการทำสงครามการค้า

-- นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐและจีนยังไม่มีการลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐแต่อย่างใด

คำกล่าวของนายคุดโลว์สวนทางคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า เขาได้บรรลุข้อตกลง"ที่เหลือเชื่อ"กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการหารือกันนอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจีนได้ตกลงที่จะ "ลดและยกเลิก" การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ จากปัจจุบันที่ระดับ 40%

-- แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลอิตาลีจะส่งร่างงบประมาณประจำปี 2562 ฉบับปรับปรุงแก้ไขใหม่ให้แก่สหภาพยุโรป (EU) ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ถูก EU ตีตกไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU

นายจิอันคาร์โล จิออร์เกตติ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะตัดงบประมาณราว 4 พันล้านยูโรออกจากโครงการสนับสนุนรายได้ และโครงการบำนาญ

เมื่อเดือนที่แล้ว EU ปฏิเสธที่จะให้การรับรองงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี พร้อมกับประกาศเตรียมลงโทษอิตาลีด้วยการสั่งปรับเนื่องจากร่างงบประมาณดังกล่าวขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU หลังจากที่รัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2562 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณ 0.8% ของ GDP ของรัฐบาลชุดเดิม

-- นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า สหรัฐกำลังบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อกล่าวหารัสเซียว่าได้ละเมิดสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty) หรือ INF เพื่อสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้สหรัฐถอนตัวจากสนธิสัญญาดังกล่าว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐออกมาประกาศว่า สหรัฐจะให้เวลารัสเซีย 60 วันในการปฏิบัติตามสนธิสัญญา INF มิฉะนั้น สหรัฐจะถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว

ด้านนายเพสคอฟได้ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับการยื่นคำขาดของฝั่งสหรัฐว่า แถลงการณ์ของสหรัฐ และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กำลังกระพือความตึงเครียดของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย

-- โฆษกกระทรวงยุติธรรมแคนาดา เปิดเผยว่า ทางการแคนาดาได้จับกุมตัวนางเหม็ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เนื่องจากคาดว่าหัวเว่ยอาจลักลอบขายสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร

รายงานข่าวระบุว่า นางเหม็ง ว่านโจว กำลังรอคำสั่งส่งตัวกลับสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ทางการสหรัฐคุมตัวต่อไป

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนต.ค.ของเกาหลีใต้ ยอดนำเข้า,ส่งออก,ดุลการค้า และยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของออสเตรเลีย รวมถึงยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค.ของสหรัฐ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค. ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ขณะที่ฝรั่งเศสจะเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. จีนเตรียมเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพ.ย. อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากฮาลิแฟกซ์ อียูจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ส่วนสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ