World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 2 มกราคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 2, 2019 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เชิญผู้นำในสภาคองเกรสทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันมายังทำเนียบขาวในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า เขาต้องการ "ทำข้อตกลง" เพื่อยุติภาวะที่หน่วยงานของรัฐบาลต้องปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือภาวะชัตดาวน์

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่ว่า การเจรจาจะสามารถยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อมาถึงวันที่ 11

-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ชะลอตัวลงในช่วงสิ้นปี หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าโลก ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก

ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปรับตัวขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวขึ้น 3.6%

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 49.7 ในเดือนธ.ค. ลดลงจากเดือนพ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.2 โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2560

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวในภาคการผลิต

-- นายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มในจังหวัดชวาตะวันตกได้เพิ่มขึ้นเป็น 15 รายแล้ว ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกประมาณ 20 ราย

-- สำนักข่าวยอนฮัปรายงานในวันนี้ว่า ทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของชาวเกาหลีใต้ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแรงงานซึ่งถูกบีบบังคับในช่วงสงคราม ได้เริ่มกระบวนการทางกฎหมายเพื่อยึดทรัพย์สินที่ชาวเกาหลีใต้เหล่านี้ควรได้รับจากบริษัท นิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม เมทัล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ศาลฏีกาเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้บริษัทดังกล่าวจ่ายเงิน 400 ล้านวอน (ประมาณ 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับชาวเกาหลีใต้ 4 คนที่ถูกทางบริษัทบีบบังคับให้ทำงานในยุคที่ญี่ปุ่นล่าอาณานิคมในช่วงปี 2453-2488

-- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนกล่าวว่า ไต้หวันจะได้รับสันติภาพที่ยั่งยืนหลังการรวมชาติอย่างสันติ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของประธานาธิบดีสีมีขึ้นระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีแห่งการส่งสาส์นไปยังเพื่อนร่วมชาติไต้หวัน

-- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เปิดเผยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีแห่งการส่งสาส์นไปยังเพื่อนร่วมชาติไต้หวันว่า จีนจะดำเนินการด้วยความจริงและดีที่สุดในการรวมชาติอย่างสันติ แต่ไม่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะละทิ้งการใช้กำลังทหาร

นายสีกล่าวว่า การรวมชาติอย่างสันติถือเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของพี่น้องร่วมชาติในเขตช่องแคบและชนชาติจีน พร้อมกับกล่าวว่า "ชาวจีนจะไม่ต่อสู้กับชาวจีนด้วยกันเอง"

นายสีกล่าวเสริมว่า "เราไม่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะละทิ้งการใช้กองกำลังทหาร และเราเตรียมทางเลือกทุกอย่างที่จำเป็นเอาไว้แล้ว" อย่างไรก็ตาม นายสีกล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ได้พุ่งเป้าไปยังพี่น้องร่วมชาติในไต้หวัน แต่เป็นการเข้าไปแทรกแซงกลุ่มกองกำลังทหารจากภายนอก และกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกไต้หวันเป็นอิสระ รวมทั้งกลุ่มความเคลื่อนไหวอื่นๆ

-- นายลี จู-ยอล ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะช่วยให้ตลาดการเงินของเกาหลีใต้มีเสถียรภาพมากขึ้นในปีนี้

-- นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่องในปี 2562 เพื่อสร้างงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรมผ่านนวัตกรรมและโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ได้รับการพัฒนา

ประธานาธิบดีมูนกล่าวถึงวิธีการที่จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศ โดยระบุว่าเกาหลีใต้ต้องใช้วิธีการแบบใหม่ ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้เองยอมรับว่า อาจจะต้องใช้เวลาและก่อให้เกิดข้อถกเถียงโต้แย้ง เนื่องจากเป็นวิธีการที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อน

-- สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายออนไลน์ประจำเดือนพ.ย. พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า มีชาวเกาหลีใต้จำนวนมากขึ้นซื้อสินค้าที่หลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

รายงานของรัฐบาลระบุว่า ยอดธุรกรรมออนไลน์ประจำเดือนพ.ย. ผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต แตะที่ระดับ 10.62 ล้านล้านวอน (ประมาณ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ