หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของจีนจะเริ่มทรงตัว หลังจากที่เติบโตอย่างร้อนแรงในปี 2561
ไชน่า เรียล เอสเตท อินฟอร์เมชัน คอร์ป (CRIC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน 10 แห่งมียอดขายเกิน 2 แสนล้านหยวน (2.98 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2561 โดยบริษัท คันทรี่ การ์เด้น ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง มียอดขายสูงสุดที่ 7.287 แสนล้านหยวน
บริษัทว่านเค่อ และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงอย่าง เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป มียอดขายรองลงมา ที่ 6.07 แสนล้านหยวน และ 5.511 แสนล้านหยวน ตามลำดับ
รายงานระบุด้วยว่า บริษัทอื่น ๆ อีก 30 แห่ง มีรายได้ต่อปีแตะ 1 แสนล้านหยวน ส่วนยอดขายโดยรวมของบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำ 100 อันดับแรกของจีน พุ่งขึ้น 35% เมื่อเทียบรายปี
CRIC คาดการณ์ว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จีนจะเริ่มเข้าสู่ภาวะคงที่ โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 100 อันดับแรกจะเติบโตในช่วง 20-30% เมื่อเทียบรายปี จากที่เติบโตในอัตราเฉลี่ย 40% ในปี 2560
ด้านไชน่า เรียล เอสเตท อินเด็กซ์ ซิสเท็ม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์อีกรายหนึ่ง ก็ได้เปิดเผยรายงานเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ตั้งแต่ 1 หมื่นล้าน - 1 แสนล้านหยวน ได้เริ่มหันเหความสนใจจากเมืองเอกและเมืองรองระดับสอง ไปเน้นลงทุนในเมืองที่เล็กลง
นอกจากนี้ ไชน่าเดลี่ยังได้รายงานอ้างคำกล่าวของนายจาง ต้าเหว่ย หัวหน้านักวิเคราะห์จากเซ็นทาไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่ระบุว่า "บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจะชะลอตัวลง" ในขณะที่บริษัทระดับรองลงมาจะกลายเป็นกำลังหลักในการซื้อที่ดิน สำนักข่าวซินหัวรายงาน