นายจัสติน หลิน อี้ฝู อดีตรองประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า จีนจะสามารถรักษาอัตราเติบโตของเศรษฐกิจที่ระดับประมาณ 6.5% และมีส่วนช่วยในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึง 30% ต่อไปได้
นายหลิน ซึ่งปัจจุบันเป็นคณบดีกิติมศักดิ์ของสถาบันการพัฒนาแห่งชาติในสังกัดมหาวิทยาปักกิ่งด้วยนั้น กล่าวสุนทรพจน์ในงาน "Forecast: China's Economy 2019" ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการระดับชาติด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐและศูนย์การวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งที่นิวยอร์กว่า "เมื่อมองไปถึงเรื่องโอกาสในการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปี 2562 นี้ ทำให้ผมมั่นใจได้"
ทั้งนี้ นายหลินได้ให้เหตุผลของการมองการเติบโตของจีนในแง่ดีครั้งนี้ว่า เพราะความจริงแล้วเศรษฐกิจของจีนกำลังจะเข้าสู่ช่วงของการขยายตัวจากการปฏิรูปโครงสร้างอุปทานในอีกไม่กี่ปีจากนี้
นายหลินกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานเพื่อปรับปรุงคุณภาพของเศรษฐกิจและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบการเงินมาโดยตลอด
นอกจากนี้ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยังได้พูดถึงความตั้งใจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ของจีน ตั้งแต่การปฏิรูปโครงสร้างได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงในหลายๆประเทศ ในขณะที่ประเทศบางประเทศกลับพูดถึงเรื่องนี้แค่เพียงเพราะกลัวว่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
นายหลินชี้ว่า นโยบายเศรษฐกิจของจีนนั้นคือ "การตอบสนองและเกิดขึ้นจาก" การที่ประเทศบรรลุเป้าหมายหลักในการลดกำลังการผลิตส่วนเกิน ระบายสินค้าคงคลัง และการลดภาระหนี้สินในระบบ โดยพุ่งเป้าไปที่การลดต้นทุนและอุปสรรคในการบริหารงานของบริษัทต่างๆ ตลอดจนขจัดอุปสรรคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ