บริษัทผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมงาน "North American International Auto Show (NAIAS)" เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ และมาตรการตอบโต้จากนานาชาติ เป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลสำหรับธุรกิจยานยนต์ในปีนี้
สำหรับคำถามที่ว่า การปรับขึ้นภาษีของรัฐบาลสหรัฐส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่ นายแมนเฟรด ฟิทซ์เจอรัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ระดับโลกของบริษัทเจเนซิส เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทางบริษัทจะต้องหาทางรับมือ "เราจะพิจารณาทางเลือกทั้งหมด เพื่อที่จะดูว่าโมเดลธุรกิจใดที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต"
ทางด้านนายไมค์ แมนลีย์ ซีอีโอของ FCA ได้ให้สัมภาษณ์หลังการเปิดตัวรถยนต์ในงานดังกล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีที่เราจะได้เข้าสู่ช่วงการหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเราจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ตามมา"
นายแมนลีย์กล่าวว่า แม้ตลาดรถยนต์จีนจะยังเป็นส่วนเล็ก ๆ ในธุรกิจของ FCA แต่ก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ "สิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่คือการหาวิธีสร้างโอกาส โดยตลาดรถยนต์จีนปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งผมคิดว่าปีนี้อาจจะยังค่อนข้างทรงตัว แต่ถึงกระนั้น จีนก็ยังคงเป็นตลาดรถยนต์อันดับ 1 ของโลก"
นายจิม เลนซ์ ซีอีโอของโตโยต้า มอเตอร์ อเมริกาเหนือ กล่าวว่า ด้วยความที่ธุรกิจยานยนต์กำลังเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าจึงเป็นอุปสรรคสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
ขณะเดียวกัน นายเลนซ์ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยกล่าวว่า "อุตสาหกรรมยานยนต์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชาติอื่นๆได้ และต้องคงต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับต่ำ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า งาน NAIAS ในปีนี้ จัดขึ้นที่เมืองดีทรอยท์ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจะปิดฉากลงในวันที่ 27 ม.ค.นี้