สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของฝรั่งเศส ได้ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมรับการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท นิสสัน มอเตอร์ กับบริษัท เรโนลต์ เอสเอ หลังจากที่นายคาร์ลอส กอส์น ประธานนิสสัน มอเตอร์ ถูกจับกุมตัวในข้อหาทำผิดกฎหมายการเงินของญี่ปุ่น ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลญี่ปุ่นก่อนหน้านี้
"ประเด็นดังกล่าวไม่ได้ถูกหยิบขึ้นโต๊ะเจรจา สิ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือการกำกับดูแลกิจการของเรโนลต์" นายบรูโน เลอ แมร์ แถลงต่อสื่อมวลชน "สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดคือแนวทางกำกับดูแลกิจการของเรโนลต์ที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเรโนลต์ โดยมีหุ้นอยู่กว่า 15% ขณะที่การจับมือเป็นพันธมิตรที่ริเริ่มขึ้นโดยนายกอส์นนั้นทำให้เรโนลต์ ถือหุ้นอยู่ในนิสสันเป็นจำนวนมากถึง 43.4% ส่วนทางฝั่งนิสสันถือหุ้นอยู่ในบริษัทเรโนลต์ราว 15% แต่ไม่มีสิทธิออกเสียง ขณะเดียวกัน บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ได้เข้ามาผนึกกำลังกับทั้งสองบริษัทนี้เมื่อปี 2559
นอกจากนี้ นายบรูโน เลอ แมร์ ยังให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสอีกเจ้าหนึ่งว่า ประเด็นเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างเรโนลต์กับนิสสันนั้น "ไม่อยู่บนโต๊ะเจรจา" ด้วยเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมรับการควบรวมกิจการระหว่างนิสสันกับเรโนลต์ โดยคาดว่ามีเป้าหมายเพื่อผนวกรวม 2 บริษัทนี้ให้อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกแห่งหนึ่ง
แหล่งข่าวระบุว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าว ซึ่งเกิดในระหว่างการหารือร่วมกันของเจ้าหน้าที่จากทั้งสองฝ่ายที่กรุงโตเกียวนั้น สะท้อนถึงความต้องการของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง แห่งฝรั่งเศส