World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 25 มกราคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 25, 2019 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงสหรัฐยอมรับว่า การบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนยังคงอยู่ห่างไกล นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐจะยืดเยื้อต่อไป หลังจากวุฒิสภาสหรัฐคว่ำร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน

-- วุฒิสภาสหรัฐปฏิเสธการรับรองร่างกฎหมายงบประมาณทั้ง 2 ฉบับ ในการประชุมอภิปรายซึ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ส่งผลให้การปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ยังคงยืดเยื้อในขณะนี้

สำหรับร่างกฎหมายงบประมาณทั้ง 2 ฉบับนั้น ฉบับหนึ่งเป็นร่างกฏหมายที่รวมงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นร่างกฎหมายที่สนับสนุนโดยพรรคเดโมแครต โดยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลที่ถูกชัตดาวน์นั้น มีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.

การที่ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับยังไม่สามารถผ่านการรับรองจากวุฒิสภาได้นั้น บ่งชี้ว่า วุฒิสภาจำเป็นจะต้องทบทวนแนวทางต่างๆที่จะนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณในการสร้างกำแพง และเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถกลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง โดยขณะนี้สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐกำลังเข้าสู่วันที่ 35 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์

-- ตลาดหุ้นเอเชียส่งสัญญาณปิดตลาดไร้ทิศทางส่งท้ายสัปดาห์นี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นลงไม่แน่นอนในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา

-- นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐยังคง"ห่างเป็นไมล์ๆ" จากการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน

นายรอสส์กล่าวว่า สหรัฐและจีนมีประเด็นมากมายที่จะต้องเจรจากัน ซึ่งรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะต้องทำการปฏิรูปโครงสร้าง และกำหนดบทลงโทษ เพื่อให้มีการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนอีกครั้ง

นายรอสส์ระบุว่า ประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้ากับจีน ได้แก่ การที่สหรัฐขาดดุลการค้าจำนวนมากต่อจีน, การที่จีนมีแผนที่จะครอบครองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในปี 2025 และการที่จีนควรเปิดตลาดให้แก่บริษัทสหรัฐเพื่อให้เข้าสู่ตลาดได้อย่างเท่าเทียมกัน

-- บริษัท เรโนลต์ เอสเอ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ได้ประกาศแต่งตั้งนายเธียร์รี บอลลอเร เป็นประธานบริหาร และนายฌอง โดมินิก เซอนาร์ เป็นประธานกรรมการบริษัท ในการประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อสรรหาผู้บริหารคนใหม่เมื่อวานนี้ แทนที่นายคาร์ลอส กอส์น ซึ่งได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวก่อนหน้านั้น หลังจากที่ถูกจับกุมตัวในญี่ปุ่นเป็นเวลากว่า 2 เดือนในข้อกล่าวหาประพฤติมิชอบทางการเงิน

-- สมาชิกรัฐสภาอังกฤษกลุ่มหนึ่งได้เรียกร้องให้นายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด ให้การสนับสนุนการจัดการลงประชามติเป็นครั้งที่ 2 ว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยระบุว่า ลำพังพวกเขาไม่มีเสียงสนับสนุนเพียงพอในรัฐสภาที่จะโน้มน้าวให้รัฐบาลดำเนินการดังกล่าว

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ECB ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงฤดูร้อนในปีนี้

-- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญความเสี่ยงในช่วงขาลง โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัยระหว่างประเทศ นายดรากียังระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในระยะใกล้มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้

-- นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในเวเนซุเอลา หลังจากที่สหรัฐ และชาติละตินอเมริกาหลายประเทศ ให้การรับรองนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ในฐานะประธานาธิบดีของเวเนซุเอลา

-- กลุ่มสังเกตการณ์ความขัดแย้งทางสังคมในเวเนซุเอลารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 รายจากการถูกกราดยิง ท่ามกลางกระแสความวุ่นวายในประเทศ หลังจากที่นายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา และนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเวเนซุเอลา ต่างออกมาอ้างว่าตนเป็นผู้นำของประเทศ

ทั้งนี้ เหตุการณ์ความวุ่นวายได้ดำเนินไปเป็นวันที่ 3 โดยมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนนายกุยโด และกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาล ขณะที่มีการปล้นสะดมในกรุงคาราคัส

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 199,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 5,500 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากแตะระดับ 54.4 ในเดือนธ.ค.

การปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI ในเดือนม.ค.ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี แม้ว่าการจ้างงานได้ชะลอตัวลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ