กระทรวงการคลังของเม็กซิโก เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของเม็กซิโก
นายอเลฮานโดร ไกตัน หัวหน้าหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังเม็กซิโก ระบุว่า ทั้งสองปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจของเม็กซิโก
นายไกตันกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในระหว่างการแถลงสรุปผลการดำเนินงานภาครัฐในช่วงไตรมาส 4 ประจำปี 2561 ว่า "เรากำลังติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั้งสองปัจจัยนี้"
นายไกตันกล่าวว่า ในช่วงแรกของปีที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 60-70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนจะร่วงลงมาแตะที่ระดับ 42 หรือ 43 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ดี นายไกตันเผยว่า เม็กซิโกได้ทำสัญญาส่งออกน้ำมันในปี 2562 ที่ราคา 55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ราคาน้ำมันดิ่งลง
นายไกตันกล่าวว่า "ความผันผวนอาจก่อให้เกิดผลกระทบ แต่เราได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันเอาไวแล้ว"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เม็กซิโกเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ