นายจู ไห่ปิน นักเศรษฐศาตร์ของเจพีมอร์แกนระบุว่า แม้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่นโยบายสนับสนุนของจีน จะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายจูกล่าว่า จีนจะใช้นโยบายการคลังและนโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจขาลงในระยะสั้น ขณะที่การปฏิรูปโครงสร้างเพื่อการพัฒนาระยะยาวยังคงดำเนินต่อไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เศรษฐกิจของจีนขยายตัวช้าลง แต่ในอัตราที่ยั่งยืนขึ้นที่ระดับ 6.6% ในปี 2561 แม้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยผู้กำหนดนโยบายได้เปิดเผยมาตรการสนับสนุนเพื่อทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ ซึ่งรวมถึงการลดภาษีและค่าธรรมเนียม การขยายการบริโภคและการลงทุน รวมถึงการจ้างงานเพิ่มขึ้น
นายจูคาดว่า การปรับลดภาษีจะเท่ากับ 1.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2562 และจะหนุนอัตราการเติบโตของจีดีพีขึ้น 0.46%
ทั้งนี้ เขาพิจารณาจากมุมมองที่ว่า การบริโภคของจีนชะลอตัวลง เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่อ่อนแอทำให้การบริโภคชะลอตัวในปีที่แล้ว
ส่วนการบริโภคซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยังคงเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว และจะได้รับแรงหนุนจากการลดหย่อนภาษี และนโยบายสนับสนุนอื่นๆ
นอกจากนี้ นายจูยังคาดว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนจะเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปีนี้ โดยลดลงเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้น 5.9% ในปีที่ผ่านมา แต่เขาคาดการณ์ว่า การเติบโตของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจะฟื้นตัวในปีนี้ ในขณะที่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จะลดลง