ผลการวิจัยของศูนย์ศึกษาวิจัยพฤติกรรมทางเศรษฐกิจแห่งวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ลอนดอนระบุว่า การลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้บริษัทอังกฤษหันไปลงทุนในสหภาพยุโรป (EU) กันมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU
ผลการวิจัยบ่งชี้ว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2559 จนถึงเดือนก.ย.2561 มีเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากอังกฤษไหลเข้าสู่ EU เพิ่มขึ้นถึง 12% หรือประมาณ 8.3 พันล้านปอนด์ (1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการบริการ
ขณะที่ตัวเลข FDI จากฝั่ง EU ไหลเข้าอังกฤษกลับลดลง 11% หรือประมาณ 3.5 พันล้านปอนด์
โทมัส แซมป์สัน หนึ่งในผู้จัดทำงานวิจัยดังกล่าวเปิดเผยว่า ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า Brexit ทำให้อังกฤษมีความน่าลงทุนน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและทำให้แรงงานชาวอังกฤษต้องพลาดโอกาสในการหางานใหม่ๆ
รายงานยังระบุว่าอีกว่า เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ออกมาให้เห็นว่า บริษัทสัญชาติอังกฤษกำลังหันไปเพิ่มการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้วนอกกลุ่ม EU เพื่อเตรียมการรับมือกับ Brexit ขณะที่การลงทุนของอังกฤษใน EU มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆมองว่า Brexit จะทำให้มีอุปสรรค์ทางการค้ามากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในภาคการบริการ