ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ย้ำว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติม ถ้าหากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับ EU ประสบความล้มเหลว
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สหรัฐพยายามที่จะทำข้อตกลง แต่ทาง EU นั้นทำข้อตกลงด้วยยาก และถ้าหากไม่มีการทำข้อตกลง ทางสหรัฐก็จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าแทน
คำกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้น 3 วันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ยื่นรายงานวิเคราะห์ต่อปธน.ว่าการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จาก EU นั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐภายใต้มาตรา 232 หรือไม่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในรายงาน แต่เรื่องดังกล่าวได้ทำให้ EU ออกมาตอบโต้ โดยนางมาร์การิติส ชินาส โฆษกของ EC กล่าวที่งานแถลงข่าวในกรุงบรัสเซลล์ว่า หากรายงานฉบับนี้ถูกตีความใดๆที่ส่งผลเสียต่อการส่งออกรถยนต์ของ EU ทางคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะตอบสนองในวิธีที่รวดเร็วและเหมาะสม
ทั้งนี้ ในเดือนมิ.ย. 2561 ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจาก EU ในอัตรา 20% และในเดือนพ.ย ปธน.ทรัมป์ได้เพิ่มอัตราภาษีขึ้นเป็น 25% หลังบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ตัดสินใจปิดโรงงานหลายแห่งในสหรัฐและปลดพนักงานอีกกว่า 14,000 ตำแหน่ง