คราวด์สไตร์ค อิงค์ (Crowdstrike Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทความมั่นคงทางไซเบอร์ เปิดเผยในรายงานว่า จีนได้เพิกเฉิยต่อข้อตกลงการยุติการโจรกรรมทางไซเบอร์ที่ได้ทำเอาไว้กับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากการทำสงครามการค้ากับจีนในปีที่แล้ว
อดัม เมเยอร์ส รองประธานฝ่ายข่าวกรองของคราวด์สไตร์ค กล่าวว่า หลังจากที่จีนได้ทำข้อตกลงดังกล่าวร่วมกับคณะทำงานของอดีตปธน.โอบามาในปี 2558 การโจรกรรมทางไซเบอร์ก็เริ่มลดน้อยลง แต่ในขณะนี้สถานการณ์กำลังเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม โดย ณ สิ้นปี 2560 จีนเริ่มกลับมาโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์อีกครั้ง และกระทำอย่างเต็มรูปแบบในปี 2561 ซึ่งคาดว่าจีนจะทำการโจรกรรมข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆและต่อเนื่อง
นอกจากนี้ คราวด์สไตร์คยังระบุว่า ข้อมูลที่จีนพุ่งเป้าโจรกรรมในปี 2561 นั้น ครอบคลุมถึงข้อมูลระบบการสื่อสารโทรคมนาคมในสหรัฐและเอเชีย พร้อมระบุว่า กลุ่มโจรกรรมข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซียและอิหร่านก็พุ่งเป้าโจมตีภาคการสื่อสารโทรคมนาคมเช่นกัน เนื่องจากคุ้มค่าที่สุด เพราะเจาะเข้าเครือข่ายเดียวสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้บริการจำนวนมหาศาล
รายงานดังกล่าวของคราวด์สไตร์คได้ถูกเผยแพร่ในช่วงเวลาที่คณะทำงานของปธน.ทรัมป์พยายามบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหาการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ก่อนที่จะครบกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่ปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาอาจจะเลื่อนกำหนดเส้นตายในวันดังกล่าวออกไป และระงับการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากการเจรจาของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า