บริษัทขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นค่าแรงน้อยลงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนหลังจากที่เกิดความขัดแย้งด้านการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างจีนและสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ผลักดันให้บริษัทต่างๆขึ้นค่าแรงติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปีในช่วงการเจรจาประจำปีช่วงฤดูใบไม้ผลิระหว่างฝ่ายผู้บริหารและพนักงาน แต่ไม่ได้ระบุถึงตัวเลขที่ชัดเจน โดยนายอาเบะได้เคยขอให้มีการขึ้นค่าแรง 3% เมื่อปีที่แล้ว เพื่อผลักดันเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
ทางด้านโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้นำในการกำหนดการเจรจาค่าแรงประจำปี ได้เสนอขึ้นค่าแรงเฉลี่ย 10,700 เยน หรือ 96 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อพนักงาน 1 ราย ซึ่งลดลง 1,000 เยนจากระดับปีก่อนหน้า และยังต่ำกว่าตัวเลขที่ทางสหภาพของบริษัทต้องการให้ขึ้นค่าแรงเป็น 12,000 เยนอีกด้วย โดยการเสนอขึ้นค่าแรงดังกล่าวรวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงทั่วไปบนพื้นฐานของอายุพนักงานและจำนวนปีของการจ้างงาน และค่าแรงพื้นฐาน
ขณะที่ฮอนด้า มอเตอร์ ได้เสนอขึ้นค่าแรง 1,400 เยน ซึ่งลดลง 300 เยนจากฐานค่าแรงปีที่แล้ว