สภาคองเกรสสหรัฐเตรียมไต่สวนเพื่อสืบหาความจริงว่า เพราะเหตุใดสำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA) จึงประวิงเวลานานหลายวันกว่าจะตัดสินใจสั่งห้ามนำเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX ขึ้นบิน หลังจากที่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงข้ามกับสายการบินและรัฐบาลของประเทศต่างๆที่ได้ออกมาตอบสนองเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรวดเร็วด้วยการสั่งห้ามนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวขึ้นบิน
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา FAA ระบุว่ายังไม่มีเหตุผลที่ระงับการให้บริการเครื่องบินรุ่นดังกล่าว แม้อุบัติเหตุเครื่องบินตก 2 ครั้งที่ผ่านมาเกิดจากเครื่องบินรุ่นนี้ก็ตาม กระทั่งในวันพุธ FAA จึงได้ตัดสินใจออกคำสั่งห้ามให้บริการเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX ซึ่งความล่าช้าของ FAA ได้สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาวุฒิสมาชิกของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายโรเจอร์ วิกเกอร์ และนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน
นอกจากนี้ การตัดสินใจของ FAA ยังล่าช้ากว่าการตัดสินใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้ออกคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อห้ามเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ทั้งหมดทำการบินในสหรัฐ
ทั้งนี้ FAA ให้เหตุผลว่า การที่ทางหน่วยงานตัดสินใจสั่งห้ามนำเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX ขึ้นบินนั้น เป็นเพราะหลักฐานใหม่ที่รวบรวมได้จากจุดเกิดหตุและเพิ่งมีการวิเคราะห์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รวมทั้งข้อมูลจากดาวเทียมที่ทางการแคนาดาได้นำมาใช้เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งระงับใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ของ FAA จะเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสในวันนี้