สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า จีนและสหรัฐเตรียมเลื่อนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงออกไปเป็นเดือนหน้า จากเดิมที่มีการคาดการณ์ว่าการประชุมดังกล่าวอาจมีขึ้นในเดือนนี้
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่คืบหน้า โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยฉุดหุ้นบริษัทผลิตชิปซึ่งต้องพึ่งพารายได้จากจีน ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนม.ค.
-- รัฐสภาอังกฤษลงคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อคืนนี้ เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวออกไปจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.
ทั้งนี้ สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 412-202 เสียง เรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเส้นตาย Brexit ออกไป 3 เดือน หรือจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. แต่ข้อเรียกร้องนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทาง EU
-- นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรปเปิดเผยว่า เขาจะเรียกร้องให้บรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (EU) พิจารณาการขอขยายกำหนดเส้นตายการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ หากอังกฤษจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์และขอฉันทามติครั้งใหม่จากรัฐสภาอังกฤษ
-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะใช้ความพยายามเป็นครั้งที่ 3 ในการยื่นข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของรัฐสภาอังกฤษในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ประสบความล้มเหลวมาแล้ว 2 ครั้ง
คาดว่ารัฐสภาจะมีการลงมติภายในวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งเป็น 1 วันก่อนที่สหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 21 มี.ค.
-- วุฒิสภาสหรัฐมีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายคัดค้านการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเกี่ยวกับชายแดนทางตอนใต้ของประเทศ
ทั้งนี้ วุฒิสภาลงมติดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 59-41 เสียง โดยมีสมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันให้ความเห็นชอบถึง 12 เสียง
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายคัดค้านการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของปธน.ทรัมป์ ด้วยคะแนนเสียง 245 ต่อ 182 เสียง โดยในจำนวนนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันลงคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยถึง 13 เสียง
อย่างไรก็ดี คาดว่าปธน.ทรัมป์จะใช้สิทธิ์วีโต้ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการวีโต้ครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
-- เฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า กรณีระบบล่มในหลายพื้นที่ทั่วโลกเมื่อวานนี้ เกิดขึ้นจากการที่บริษัทได้เปลี่ยนการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ หลังผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทั่วโลกได้รายงานปัญหาเกี่ยวกับการล็อกอินเข้าสู่บัญชีของผู้ใช้หรือการแชร์โพสต์ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานบางส่วนยังไม่สามารถรีเฟรชฟีดต่างๆ หรือโพสต์ไฟล์ใหม่ๆได้
-- บริษัทโบอิ้ง ได้สั่งระงับการส่งมอบเครื่องบินทั้งหมดในตระกูล 737 Max เป็นเวลาชั่วคราว หลังก่อนหน้านี้ สำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA) สั่งห้ามให้บริการเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX จากการที่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 157 คน
ด้านสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐเปิดเผยว่า เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX อาจถูกสั่งห้ามบินจนถึงเดือนเม.ย.เป็นอย่างน้อย
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันอยู่ที่ระดับ 30.46 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยลดลง 130,000 บาร์เรล/วันจากที่มีการคาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว และต่ำกว่าระดับการผลิตของโอเปกในปัจจุบัน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้นในเดือนก.พ. โดยปรับตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. ดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และสินค้าเพื่อผู้บริโภค
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 6.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 607,000 ยูนิต จากระดับ 652,000 ยูนิตในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะลดลง 0.6% สู่ระดับ 620,000 ยูนิตในเดือนม.ค.
-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ทางการจีนเตรียมรายงานตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนก.พ. เวลา 14.30 น. ตามเวลาไทย
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยเวลา 10.00 น.
สหรัฐมีกำหนดรายงานดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก เวลา 19.30 น.
การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. เวลา 20.15 น. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.